รีเซต

'วิโรจน์' ควง ผู้สมัครส.ก. ลุยชายทะเลบางขุนเทียน ลั่นหากเป็นผู้ว่าฯจะทำงบตอบโทจย์พื้นที่

'วิโรจน์' ควง ผู้สมัครส.ก. ลุยชายทะเลบางขุนเทียน ลั่นหากเป็นผู้ว่าฯจะทำงบตอบโทจย์พื้นที่
มติชน
5 เมษายน 2565 ( 11:30 )
181
'วิโรจน์' ควง ผู้สมัครส.ก. ลุยชายทะเลบางขุนเทียน ลั่นหากเป็นผู้ว่าฯจะทำงบตอบโทจย์พื้นที่

ข่าววันนี้ 5 เมษายน นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยนายวิเชียร กันทาทรัพย์ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางขุนเทียน เบอร์ 1 เดินตลาดเช้าพบปะพี่น้องประชาชน และชมโครงการสะพานรักษ์บางขุนเทียน ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมต่อกับเส้นทางจักรยานและป่าชายเลน ก่อนจะถึงแนวคันหินที่ป้องกันการกัดเซาะของน้ำทะเล โดยปัญหานี้เป็นปัญหาเรื้อรังยาวนานหลายสิบปี

 

 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนกังวลกับระยะเวลาของโครงการ เกรงว่า จะกลายเป็นโครงการเมกะโปรเจกต์เจ็ดชั่วโคตร หากได้รับเลือกให้บริหารงาน กทม. จะเร่งดำเนินการเร่งรัด ปรับลดระยะเวลาการทำงานให้สั้นลง ขณะเดียวกันก็จะเน้นผลักดันการปลูกป่าชายเลน ไปพร้อมๆ กับการทำโครงสร้างอ่อนอย่างไม้ไผ่ที่ใช้เป็นแนวกันคลื่น เพื่อลดความแรงของคลื่นในการกัดเซาะชายฝั่ง เสริมกับคันหินที่กำลังก่อสร้างด้วย วิโรจน์ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาประชาชนได้บริจาคที่ดินให้ กทม. เพื่อทำแนวคันหิน แต่สุดท้าย กทม.กลับยังไม่ดำเนินการทำอะไร อีกทั้งยังขอให้มีการบริจาคเพิ่มอีกเรื่อยๆ ดังนั้นกทม. ต้องเร่งดำเนินการไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

 

 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังพบปัญหาที่ประชาชนร้องเรียน เช่น การก่อสร้างสะพานและโครงการเลียบป่าชายเลน แม้จะเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่ แต่สิ่งก่อสร้างกลับไม่ได้คำนึงถึงการใช้สอย ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เช่น สะพานและทางเลียบป่าชายเลนที่มีขนาดกว้างราวๆ 2 เมตร ผู้สูงอายุก็ไม่สามารถเดินบนทางเท้าได้

 

 

เมื่อถามว่า จำนวนผู้สมัครฯ ผู้ว่าฯ กทม.ที่มีมากถึง 31 คน คะแนนก็จะกระจาย จะมีกลยุทธ์อย่างไร นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนก็ต้องแสดงจุดยืนและนโยบายให้ชัดเจน การบริหารเมืองไม่ได้ใช้แค่การบริหารจัดการ แต่ต้องพูดถึงการจัดสรรงบประมาณอย่างเหมาะสมด้วย รวมถึงการตรากฎกติกาที่เป็นธรรม ซึ่งจะนำเมืองไปสู่ความเป็นธรรมได้ ส่วนวิธีการโน้มน้าวคนที่เห็นตรงข้ามนั้น ตนคิดว่าเราจะต้องแสดงความจริงใจ ทุกคนอยากเห็นกทม.ดีขึ้นถูกพัฒนาอย่างตรงไปตรงมา และงบประมาณถูกใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทุกคนไม่เห็นด้วยกับการคอร์รัปชันอยู่แล้ว ถ้าหากเรามีจุดยืนที่ชัดเจนที่จะทำให้งบประมาณทุกบางทุกสตางค์ตกถึงมือประชาชน ตนคิดว่าเป็นโอกาสที่เขาจะพิจารณาพวกเรา

 

 

เมื่อถามว่า จากโพลคะแนนยังเป็นรองตัวเต็งอีกหลายคน นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า เราก็ต้องทำงานเต็มที่ นำเสนอนโยบาย 12 ข้อ ที่เราพยายามสร้างเมืองที่เป็นธรรม เมืองที่คนเท่ากัน เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงความตั้งใจของเรา

 

 

ด้านนายวิเชียร กล่าวว่า พื้นที่นี้ประสบปัญหาหนักเรื่องการสร้างสิ่งก่อสร้างที่ประชาชนไม่ได้ต้องการ บวกกับการออกแบบที่ไม่คำนึงถึงการใช้ประโยชน์ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นคลองที่เชื่อมกับทะเล เส้นทางและสะพานที่ใช้เชื่อมบ้านเรือนไม่สามารถนำรถพยาบาลเข้าไปได้ ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความสะดวกเวลาเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งสะท้อนการใช้งบแบบราชการ ไม่เข้าใจความต้องการประชาชน หากนายวิโรจน์ได้เป็นผู้ว่าฯ กทม ตนเชื่อว่าการใช้งบแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เพราะทีมนายวิโรจน์มีนโยบาย “งบที่ประชาชนออกแบบได้” ซึ่งเป็นการกันงบประมาณจำนวนหนึ่งของกทม. ให้ประชาชนเลือกได้ว่าจะใช้งบทำประโยชน์อะไรในชุมชน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง