รีเซต

GLORY กำเงินสด 180 ล. ลุยลงทุนเอสเอ็มอี

GLORY กำเงินสด 180 ล. ลุยลงทุนเอสเอ็มอี
ทันหุ้น
21 กุมภาพันธ์ 2566 ( 22:58 )
101

#GLORY #ทันหุ้น – GLORY โชว์แคสโฟลว์เต็มมือ 180 ล้านบาท พร้อมลงทุนเอสเอ็มอี ปักเป้าเข้าลงทุน 8-12 บริษัทภายใน 3 ปี ฟากผู้บริหารตั้งเป้าดันรายได้ปี 2566 โต 20-50% แย้มเตรียมบุ๊กรายได้ระบบซีเคียวริตี้ปีนี้ มีลุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

 

นายจรัญพัฒณ์  บุญยัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งเรืองตลอดไป จำกัด (มหาชน) หรือ GLORY ธุรกิจสตาร์ทอัพประเภทแพลตฟอร์ม ด้านวรรณกรรมออนไลน์ (Startup Platform Online) ประกอบด้วย นิยาย การ์ตูน และหนังสือ เปิดเผยว่า บริษัทแบ่งธุรกิจออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1.ธุรกิจให้บริการวรรณกรรมออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มชื่อ Kawebook.com และ Jinovel.com สำหรับธุรกิจแรกนี้บริษัทมีแผนจะเพิ่มระบบ Subscripiton Model ในการเพิ่มจำนวนฐานผู้อ่าน และในปี 2566 บริษัทมีแผนจะซื้อลิขสิทธิ์นิยาย การ์ตูน เพิ่มจำนวน 70% จากปัจจุบันมีจำนวนลิขสิทธิ์ 230 เรื่อง

 

** เปิดตลาดต่างแดน

2.ธุรกิจส่งออกนิยายไทยที่มีชื่อเสียง มียอดอ่านในประเทศสูง เพื่อเปิดตลาดใหม่ในต่างประเทศ โดยเริ่มแปลภาษาอังกฤษก่อนเป็นภาษาแรก นอกจากนี้บริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาแพลตฟอร์มให้รองรับหลายภาษาเพื่อรองรับ Scale up ไปยังต่างประเทศ

 

3.ธุรกิจนิวโปรดักต์ ล่าสุดบริษัทซื้อลิขสิทธิ์เกมจากต่างประเทศ และนำมาพัฒนาเพื่อทดลอง และเตรียมเปิดตลาดในประเทศไทย โดยจะเริ่มให้บริการเกมบนมือถือผ่านระบบ IOS และ Android คาดจะเริ่มเปิดตัวในเดือนมีนาคมนี้

 

และ 4. ธุรกิจการลงทุนธุรกิจ Start up และ SME ปัจจุบันบริษัทลงแล้วจำนวน 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อินฟินิตี้ ทู อินฟินิตี้ จํากัด (INFINITY) ซึ่งบริษัทเข้าลงทุนในสัดส่วน 40% ธุรกิจ DD II เป็นธุรกิจที่เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และเฮลธ์แคร์ (Lifestyle & Health Care Consciousness) และบริษัท Pixela ซึ่งเป็นธุรกิจด้านออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง

 

“ธุรกิจอินฟินิตี้ หรือระบบซีเคียวริตี้ คาดจะเห็นรายได้เข้ามาในปีนี้ เพราะการเริ่มต้นธุรกิจต้องใช้เวลา 9-12 เดือน และอินฟินิตี้เริ่มจัดตั้งบริษัทแล้วตั้งแต่กลางปีก่อน น่าจะเริ่มเห็นการดำเนินธุรกิจได้ในปีนี้ และมีโอกาสจะเห็นการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ได้ง่ายกว่าบริษัทอื่น เพราะด้วยระบบบัญชี และผู้ตรวจสอบบัญชีอินฟินิตี้มีความพร้อมมากกว่า” นายจรัญพัฒณ์ กล่าว

 

** ลงทุนเอสเอ็มอี

สำหรับการลงทุนธุรกิจ Start up และ SME บริษัทมีเป้าหมายเข้าลงทุนใน3-4 บริษัท อาทิ ธุรกิจสื่อ ธุรกิจสุขภาพหรือเฮลธ์แคร์ และธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นกลุ่มธุรกิจ New S-Curve โดยมีเป้าหมายจะลงทุนเฉลี่ยปีละ 3-4 บริษัท หรือ 8-12 บริษัทภายใน 3 ปี (ปี 2565-2567) โดยบริษัทวางงบลงทุนไว้ที่ 100-200 ล้านบาท

 

ทั้งนี้บริษัทมีกระแสเงินสดในมือราว 180 ล้านบาท โดยจะพยายามรักษาเงินสดให้มากที่สุด สำหรับกระแสเงินสดที่มีอยู่คาดจะเพียงพอต่อการลงทุน ซึ่งบริษัทตั้งเป้าปี 2566 เติบโตเพิ่มขึ้น 20-50%จากแผนต่อยอดและการลงทุนธุรกิจเพิ่มเติม

 

อนึ่ง ผลประกอบการในปี 2565 เติบโตขึ้นอย่างโดดเด่น โดยบริษัทมีกำไรสุทธิที่ 28.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 92.85% จากปี 2564 ซึ่งคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิที่ 20.97% ซึ่งการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิเป็นผลมาจากการที่บริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายในปี 2565 ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน อาทิค่าบริการที่ปรึกษาทางการเงิน ค่าบริการที่ปรึกษาทางกฎหมาย ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของบริษัท เป็นต้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง