สำรวจแปลงปลูกป่าห้วยตึงเฒ่า "ฌอน"ร่วมปลูก แค่ไม้ผลัดใบหรือยืนต้นตาย
เมื่อวันที่ 15 มกราคม กรณีโครงการรวมใจไทยปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูป่าและเพิ่มพื้นที่สีเขียว ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี ปลูกป่านำร่องในพื้นที่บริเวณป่าดอยสุเทพ บ้านศาลา (ห้วยตึงเฒ่า) ม.3 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ รวมเนื้อที่รวม 210 ไร่ จำนวน 1,300 ต้น เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2563 โดยมีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) กระทรวงมหาดไทย(มท.) ร่วมจัดงาน และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ได้ว่าจ้าง “ฌอน บูรณะหิรัญ” นักสร้างแรงบันดาลใจ มาร่วมปลูกป่า วงเงินประมาณ 7 ล้านบาท อีกทั้งนายฌอนยังได้ชมพล.อ.ประวิตร ว่าเป็นผู้ใหญ่ที่น่ารัก จนเป็นกระแสและลามไปสู่การขุดเงินบริจาค และเรื่องราวต่างๆ ของ ฌอน บูรณะหิรัญ นั้น โดยขณะนี้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชียลถึงโครงการปลูกป่าดังกล่าว พร้อมเผยแพร่ภาพพร้อมระบุว่า ผ่านไปแค่ครึ่งปี ต้นไม้ที่ร่วมปลูกกันไว้ กลับแห้งเหี่ยวไปหมด ในขณะที่กรมป่าไม้ชี้แจงว่าต้นไม้กว่า 90%รอด ส่วนภาพที่เห็นในโลกออนไลน์คาดว่าต้นไม้กำลังผลัดใบ จึงอาจดูเหมือนยืนต้นไม้ ใบไม้ร่วงหมด
ล่าสุดผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่สำรวจจุดที่จัดกิจกรรมปลูกป่า พบว่าอยู่ในพื้นที่ด้านหลังของอ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ใกล้กับหุ่นยักษ์คิงคอง สภาพพื้นที่พบต้นไม้หลายต้นที่เคยปลูกไว้ยืนต้นตาย มีหญ้าแห้งคลุมโค่นต้นไว้ ส่วนรอบบริเวณก็เต็มไปด้วยหญ้าแห้งที่ขึ้นเต็มพื้นที่ขาดการดูแลและรดน้ำ แต่ก็ยังมีต้นไม้บางต้นที่อดทนจนเติบโตมีใบสีเขียวงอกออกมาประมาณ 5 -6 ต้น จากแนวต้นไม้ที่ปลูกเป็นแถวประมาณ 70 – 80 ต้น จากการสอบถาม พ.อ.สุปกรณ์ เรือนสติ ผู้จัดการสำนักส่งเสริมการท่องเที่ยว อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่าฯ กล่าวว่า ผู้จัดงานมาขอใช้พื้นที่ และแจ้งว่าจะส่งคนมาดูแลเอง ทางโครงการฯจึงได้เข้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ได้รับคำร้องเรียนจากชุดปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ระดับหมู่บ้าน ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดอยสุเทพ – ปุย ในห้วงตั้งแต่เดือนมีนาคม – พฤษภาคม 2563 ขอให้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายกับนายฌอน บูรณะหิรัญ ที่ขอเรี่ยไรรับบริจาคเงิน ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อนำเงินช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ดับไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร โดยคดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก สำหรับข้อกล่าวหามีทั้ง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.เรี่ยไรฯ และข้อหาอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม ได้รับดำเนินการ และเรียกสอบพยานสำคัญที่เป็นผู้เสียหายโดยตรง ทั้งพนักงานที่ทำงานดับไฟป่า รวมถึงผู้บริจาคแล้ว
“ตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติแล้ว และกำลังรอการพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร เพราะคดีนี้พื้นที่เสียหายคือจังหวัดเชียงใหม่ แต่มีการแจ้งความเอาผิดก่อนที่ สน.ปากเกร็ด และอีกหลายพื้่นที่ อาจจะมีการรวมคดีเข้าด้วยกันเพื่อสะดวกต่อการทำสำนวน เนื่องจากมีผู้บริจาคเงินทั่วประเทศ” นายบุญญฤทธิ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง ป่าไม้ แจง ห้วยตึงเฒ่า ไม้รอดกว่า 90 % ชี้ แค่ผลัดใบลดการคายน้ำ
ต้นไม้ที่ ‘ฌอน’ ไปปลูก ผ่านไปเป็นปี ไม่มีใบงอก หนุ่มเชียงใหม่เผยภาพ ถามยังจำได้ไหม?