อังกฤษสั่งเด็ดขาด “Lock Down” ห้ามชุมนุมเกิน 2 คน

วันนี้ ( 24 มี.ค. 63 )นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ผู้นำอังกฤษ แถลงต่อประชาชนเมื่อวันจันทร์ผ่านการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ สั่งให้ชาวอังกฤษพักอยู่ที่บ้านเพื่อหยุดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ต้องควบคุมการใช้ชีวิตประจำวันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยามสงบ ร้านค้าที่ไม่จำเป็น จะต้องปิดและประชาชนไม่ควรออกไปพบปะกับครอบครัวหรือเพื่อนนอกบ้านอีก มิเช่นนั้นจะต้องถูกลงโทษด้วยการปรับเงิน

ก่อนหน้านี้ นายจอห์นสันยังต่อต้านแรงกดดันที่ถาโถมให้เขาล็อคดาวน์ หรือปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เช่นเดียวกับประเทศในยุโรปหลายชาติปฏิบัติกัน แต่ต้องเปลี่ยนมาใช้มาตรการเข้มข้นนี้ หลังตัวเลขผู้เสียชีวิตจากไวรัสในอังกฤษ เพิ่มขึ้นอีก 54 คน มาอยู่ที่ 335 คนเมื่อวันจันทร์ ขณะที่รัฐบาลแถลงว่า กองทัพจะช่วยลำเลียงอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล หรือพีพีอี หลายล้านชิ้น ซึ่งรวมทั้งหน้ากากอนามัย ไปให้บุคลากรทางการแพทย์ ที่เริ่มขาดแคลน

นายจอห์นสัน กล่าวผ่านโทรทัศน์แทนการแถลงข่าวรายงานของเขา ว่า นับจากเย็นวันจันทร์นี้เป็นต้นไป เขาต้องขอให้ชาวอังกฤษปฏิบัติตามคำแนะนำที่ง่ายมาก ๆ นี้ คือทุกคนต้องพักอยู่ที่บ้าน จะได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้าน ก็ต่อเมื่อไปซื้อสิ่งของจำเป็นพื้นฐานเพื่อการดำรงชีพ, ออกกำลังกาย, ร้านยา หรือเดินทางไปกลับที่ทำงาน 

ซึ่งจำเป็นจริง ๆ รัฐบาลจะปิดร้านค้าทั้งหมดที่ขายสินค้าที่ไม่จำเป็น รวมทั้งร้านขายเสื้อผ้า, อาคารอื่น เช่นห้องสมุด, สนามเด็กเล่นและสนามกีฬากลางแจ้ง และศาสนสถานด้วย

มาตรการเข้มข้นนี้ มีขึ้นหลังมีหลักฐานเมื่อสุดสัปดาห์ว่า ยังมีประชาชนจำนวนมากเพิกเฉยต่อคำสั่งของเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการเว้นระยะห่างทางสังคม เพราะพวกเขายังแห่ไปเที่ยวตามสวนสาธารณะและแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ

 นอกจากนี้ ภายใต้มาตรการใหม่นี้ รัฐบาลจะห้ามชุมนุมทั้งหมดในที่สาธารณะตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และห้ามการจัดงานสังคมทั้งหมด รวมทั้งงานแต่งและพิธีศีลจุ่ม หรือการล้างบาปในศาสนาคริสต์ ยกเว้นงานฝังศพ ส่วนสวนสาธารณะยังคงเปิดเพื่อออกกำลังกายเท่านั้น ห้ามชุมนุม