จีนทดสอบ “ฝนเทียม” ลดฝุ่นกัมมันตรังสี ลดพื้นที่เสี่ยงสูงได้มากถึง 90%

นักวิจัยการทหารของจีนจากสถาบันการทหาร Joint Logistic Support Force University of Engineering ภายใต้การดูแลของ กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ร่วมกับทางหน่วยงานวิจัยทางทหาร Rocket Force Research Institute ทำการทดสอบระบบ Aerial Suppression System ระบบช่วยลดการแพร่กระจาย “ฝุ่นกัมมันตรังสี” อย่างรวดเร็วจาก “ระเบิดสกปรก” หรือ Dirty Bomb กลายเป็นก้าวใหม่ของเทคโนโลยีป้องกันภัยจากรังสี
“ระเบิดสกปรก” คืออะไร ? และเพราะเหตุใดต้องมีการจำลอง?
“ระเบิดสกปรก” หรือ Dirty Bomb ไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์แบบที่เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ แต่เป็นระเบิดที่ผสม วัตถุระเบิดทั่วไปกับสารกัมมันตรังสี เช่น พลูโทเนียมหรือซีเซียม เมื่อระเบิดจะกระจายฝุ่นกัมมันตรังสี (Radioactive plume) ออกไปในอากาศ และสามารถทำให้พื้นที่กว้างใหญ่ กลายเป็นเขตอันตรายได้หลายสัปดาห์หรือเดือน
การทดสอบ
การทดลองในครั้งนี้ เป็นการสำรวจว่า “ระบบทางอากาศขั้นสูง” สามารถระงับ และทำให้กัมมันตภาพรังสีเป็นกลางได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะแพร่กระจายได้อย่างไร ซึ่งจะเป็นการนำเสนอเครื่องมือใหม่ในการตอบสนองต่อภัยพิบัติและการป้องกันเหล่านี้โดยเฉพาะ
ในการทดสอบระบบ Aerial Suppression System ทางนักวิจัยจีนได้ทำการจำลอง “ระเบิดสกปรก” ขึ้นมา โดยใช้การระเบิดของ TNT 62 กิโลกรัม เป็นตัวกระจายพลูโทเนียม 1 กิโลกรัม ในอากาศนิ่ง ลมต่ำกว่า 2 เมตร/วินาที อุณหภูมิประมาณ 25 องศาเซลเซียส บนพื้นคอนกรีตเพื่อจำลองพื้นที่เมือง เพื่อทดสอบผลกระทบและวิธีควบคุมการแพร่กระจายของฝุ่นกัมมันตรังสี
โดย “ระเบิดสกปรก” ที่สร้างขึ้นในการทดสอบนี้ 1 ลูกสามารถทำให้ผู่นกัมมันตรังสีปนเปื้อนพื้นที่ได้ประมาณ 10 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น “โซนรังสีร้ายแรง”, “โซนอันตรายระดับกลาง”, และ “โซนต้องอพยพและล้างพื้นที่”
ผลการทดสอบระบบ Aerial Suppression System สามารถทำให้ฝุ่นกัมมันตรังสีตกลงพื้นเร็วขึ้น ลดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง ซึ่งลดพื้นที่เสี่ยงสูงลงได้มากถึง 90%
ระบบ Aerial Suppression System ทำงานอย่างไร?
ทีมวิจัยนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ Lin Yuanye ระบุว่าระบบ Aerial Suppression System เป็นเทคนิคคล้ายการทำ “ฝนเทียม” แต่ใช้เพื่อจัดการมลพิษรังสีแทน เมื่อเกิดการระเบิดขึ้น ทางทีมนักวิจัยจะปล่อยจรวดที่บรรจุสารพิเศษขึ้นไปบนอากาศ เพื่อให้สารดังกล่าวไปเกาะตัวกับฝุ่นกัมมันตรังสี ให้มันตกลงสู่พื้น
ความสามารถของระบบ Aerial Suppression System
สามารถปล่อยจรวดขึ้นฟ้าได้ภายใน 2 นาทีหลังเกิดการระเบิดขึ้น
ตัวระบบจะปล่อยสารพิเศษ ที่จะเข้าไปจับอนุภาคกัมมันตรังสีด้วยการเกาะตัว (Coagulation) และการดูดซับ (Adsorption)
ทำให้ฝุ่นกัมมันตรังสีตกลงพื้นเร็วขึ้น ลดการแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยหากสามารถควบคุมได้ดี จะสามารถลดพื้นที่เสี่ยงสูงลงได้มากถึง 90%
อย่างไรก็ตามการยิงจรวดปล่อยสารควบคุมออกไปได้ภายใน 2 นาที จะมีประสิทธิภาพมากกว่า 50% แต่ถ้าช้าจะลดผลกระทบไม่ได้เลย ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้ระบบ Aerial Suppression System ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีระบบตรวจจับที่เร็ว, ระบบเตือนภัยอัตโนมัติ และทีมฉุกเฉินที่รอพร้อมปฏิบัติการในทันที
การจำลองครั้งนี้ถือเป็น “ก้าวใหม่” ในการเตรียมพร้อมต่อภัยจากกัมมันตรังสี ทั้งในมิติของกลาโหมและการป้องกันพลเรือน เพราะเทคโนโลยี Aerial Suppression System นี้สามารถใช้ได้กับหลายสถานการณ์ เช่น การก่อการร้ายที่ใช้ระเบิดสกปรก ภัยธรรมชาติที่มีการปนเปื้อนรังสี และสถานการณ์ฉุกเฉินด้านนิวเคลียร์
แหล่งที่มา : interestingengineering.com
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
