กทม. พาสื่อ สำรวจ ซากตึก สตง. พังถล่ม ระบุ บันไดหนีไฟจุดพบร่างมากที่สุด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ กองอำนวยการร่วม ภายในศูนย์การค้าเจเจมอลล์ ซึ่งเป็นจุดบัญชาการเหตุการณ์อาคาร สตง. แห่งใหม่ถล่ม นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร ได้ออกมาเปิดเผย ถึงความคืบหน้าการค้นหาร่างของผู้สูญหาย และการดำเนินการรื้อเศษซากปรักหักพังของอาคาร
นายสุริยชัย กล่าวว่า วันนี้ในพื้นที่ก่อสร้างอาคาร สตง. เราสามารถเปิดพื้นตัวแผ่นคอนกรีตชั้นใต้ดินได้ครบหมดแล้ว ทั้งโดยรอบและตัวอาคาร ทั้งหมด 40 เมตร คูณ 40 เมตร ยังเหลือแค่พื้นที่ B2 และ B3 ซึ่งเป็นจุดทางเชื่อมกับอาคารจอดรถที่ยังตกค้างอยู่เล็กน้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรื้อถอน
นอกจากนี้ยังเหลือในส่วนของตัวซากอาคารที่ล้มร่วงลงไปกองอยู่ด้านข้าง ในพื้นที่โซน B ความสูงเทียบเท่ากับตึก 1 ชั้น สูงราว 3 เมตร ความกว้าง 15-20 เมตร เป็นพื้นที่ว่าง แต่ในส่วนชั้นใต้ดินยังไม่ได้ยุบลงไป แต่ข้างใต้พบว่าเสาเหล็กหักโค่นลงอยู่มาก จุดนี้เจ้าหน้าที่จึงต้องทำงานกันอย่างระมัดระวัง เนื่องจากการใช้เครื่องจักรหนักทำงาน อาจไปเพิ่มน้ำหนัก และอาจทำให้พื้นดินยุบหรือทรุดตัวลงได้ คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน จะสามารถเคลียร์พื้นที่ได้ทั้งหมด ซึ่งถ้าหากมองจากด้านนอกก็จะอยู่ตรงแนวอาคารที่จอดรถ แต่ไม่มากนัก
ส่วนตั้งแต่เมื่อวานจนถึงช่วงเช้าวันนี้ การค้นหาผู้สูญหายยังคงดำเนินการต่อเนื่อง และในตัวอาคารยังไม่พบร่างผู้สูญหายเพิ่ม แต่ยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมด เป็นการพลิกแผ่นดิน พลิกพื้นอาคาร และค้นหาผู้สูญหายที่ยังติดค้างอยู่ในอาคาร ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องรอการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของชิ้นส่วนมนุษย์ที่ยังค้างกว่า 200 ชิ้น ที่ได้ส่งให้กับทางสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจด้วย เพื่อนำไปตรวจดีเอ็นเอว่าเป็นร่างมนุษย์กี่ราย และจะต้องนำมาตรวจสอบให้ตรงกับข้อมูลพนักงานสอบสวนที่ได้แจ้งว่ามีผู้สูญหายทั้งหมด 109 คนหรือไม่ ถ้าหากพบว่าตัวเลขไม่ตรงกัน ก็จะต้องไปตรวจสอบรายละเอียดฐานข้อมูลว่ามีข้อมูลไหนที่คลาดเคลื่อนหรือไม่ เพราะวันนี้เราสามารถเปิดที่ของอาคารได้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่าภารกิจการค้นหาจบแล้วหรือไม่ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตอบว่า ”ในส่วนของข้อมูลจากพนักงานสอบสวนยังพบว่ายังต้องตามผู้สูญหายอยู่ 13 ราย แต่ในตัวอาคารจากการค้นหา ไม่พบร่างผู้สูญหายเพิ่ม แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ยังคงเหลือกองปรักหักพังที่อยู่ในโซน B ตามที่ได้บอกไว้ข้างต้น ซึ่งจากการวิเคราะห์อาจจะเป็นไปได้ที่ร่างอาจจะทับกันอยู่ และเพื่อให้สิ้นข้อสงสัย จึงอยู่ระหว่างดำเนินการรื้อถอน“
จากนั้นผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วย นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกของกรุงเทพมหานคร นำคณะสื่อมวลชน ลงพื้นที่ไปยังบริเวณชั้นใต้ดินที่ได้มีการรื้อถอนไปแล้วเมื่อวานนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าในสถานที่จริง โดยพื้นที่มีขนาดกว้าง 40 คูณ 40 เมตร และสูง 4 เมตร
โดยนายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการวางผัง และพัฒนาเมือง ได้อธิบายถึงโครงสร้างของอาคาร สตง. แห่งใหม่ และแผนการค้นหาร่างของผู้ติดค้างอยู่ภายในซากอาคาร ทั้งโซน A B C และ D ซึ่งจุดที่พบผู้สูญหายมากที่สุด คือ จุดบันไดหนีไฟ และเป็นพื้นที่ในการกู้ซากผู้เสียชีวิต โดยเราได้ดำเนินการค้นหาร่าง และเศษชิ้นเนื้ออย่างไม่ละเว้นพื้นที่ส่วนไหนเลย คาดว่าอีกประมาณ 4-5 วัน จะรื้อซาก และค้นหาคนที่ติดอยู่ภายในจนกว่าจะแล้วเสร็จ
ส่วนความยากในการปฏิบัติงาน คือ ยากทุกอย่างเนื่องจากเราเองไม่มีประสบการณ์ที่จะรื้อซากตึก กว่า 30 ชั้น และมีผู้เสียชีวิตอยู่ในพื้นที่เกือบ 100 ชีวิต ในการทำงานเราทำด้วยความระมัดระวังเพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด แล้วก็รักษาพาพวกเขาออกมา แต่สุดท้าย เราพยายามดำเนินการมาตลอด
โดยสิ่งที่ระมัดระวังมากที่สุด เนื่องจากโครงสร้างมีความซับซ้อน ทำให้มีความลำบากในการใช้เครื่องจักรดำเนินการ เราต้องระมัดระวังร่างที่ติดอยู่ในพื้นที่ ทำให้การทำงานค่อนข้างลำบาก
ซึ่งก็ต้องขอบคุณเอกชน ภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เข้ามาดำเนินการในการรื้อตั้งแต่วันแรก โดยทุกคนมาด้วยใจและช่วยกันดำเนินการอย่างเต็มที่ เราใช้เครื่องจักรกว่า 70-80 เครื่อง เรามีการดำเนินการและการวางแผนงาน ซึ่งหน้างานค่อนข้างมีอุปสรรค เรามีการประชุมตั้งแต่ 9 โมงเช้า และ 6 โมงเย็นของทุกวัน ซึ่งหน้างานมักจะเจอปัญหา แต่ต้องแก้ปัญหาตลอด แต่ละวันไม่เคยเหมือนกันเลย คนที่เข้ามาทำงานในนี้ ก็เต็มที่ในการกู้ร่างผู้เสียชีวิตกลับบ้าน
ส่วนบริเวณปล่องลิฟท์ และบันไดหนีไฟ อาคารที่เชื่อมกับอาคารจอดรถ พบว่าเป็นจุดที่มีร่างของผู้เสียชีวิตมากที่สุด คาดว่าตอนช่วงเกิดเหตุผู้เสียชีวิต น่าจะวิ่งมาที่จุดนี้ ซึ่งจากการสังเกต พบว่ามีเครื่องเซ่นไหว้วางบริเวณรอบจุดนี้ราว 4-5 จุด
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับการยืนยันโดยสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ หน้ากองอำนวยการ ข้อมูล ณ เวลา 18:00 น. ของวานนี้ (5 พฤษภาคม 2568) พบผู้เสียชีวิตแล้ว 87 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และอยู่ระหว่างการติดตามอีก 13 ราย จากผู้ประสบเหตุทั้งหมด 109 ราย