ระทึกทั้งรพ.! ถังออกซิเจนในรถตู้รับผู้ป่วยระเบิด ไฟลุกท่วมรอดตายหวุดหวิด

ระทึกทั้งรพ.! ถังออกซิเจนในรถตู้รับผู้ป่วยระเบิด ไฟลุกท่วมรอดตายหวุดหวิด

เมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 มิ.ย.63 ร.ต.อ.รังสรรค์ ลมไธสง รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุเกิดรถตู้ของกู้ชีพ ได้เกิดระเบิดที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ถนนพระพันวษา ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จึงได้เร่งประสานงานกับเจ้าดับเพลิงเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี เพื่อเข้าช่วยเหลือ

โดยที่เกิดเหตุบริเวณด้านหน้าอาคารผู้ป่วยนอกและศูนย์วินิจฉัยรักษาผ่าตัดโรคหัวใจ 6 ชั้น ภายในทางขึ้นอาคารที่จอดรถรับส่งผู้ป่วย พบรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีบรอนด์เงิน ทะเบีย น ฮร-4148 กทม. ของสมาคมอาสาสมัครกู้ชีพและบรรเทาสาธารณภัย จอดไฟลุกท่วมอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิง จึงเร่งฉีดน้ำเพื่อดับเพลิง และไม่ให้เพลิงลุกลามเข้าไปในตัวอาคาร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ โดยสภาพความเสียหาย มีเพดานฝ้าตรงหน้าประตูอาคารถูกไฟไหม้เสียหาย และมีกลุ่มควันไฟเข้าไปภายในอาคาร รวมทั้งอุปกรณ์กู้ภัยภายในรถเสียหายทั้งคัน โดยจนท.รพ.อยู่ในอาการแตกตื่น แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

สอบสวนเบื้องต้น นายชาคริต เป้ามงคล อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 249/16 หมู่ที่ 5 ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี คนขับรถตู้คันที่เกิดระเบิด กล่าวว่า ได้ขับรถตู้คันดังกล่าว มารอรับผู้ป่วย เพื่อจะไปส่งบ้านที่ ต.บางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้เปิดวาล์วถังออกซิเจน เพื่อเตรียมจะนำผู้ป่วยขึ้นรถ แต่ก็ได้ยินเสียงดังฟู่ ออกมาจากท่อออกซิเจน ก็ยังไม่ได้เอะใจอะไร เพราะวันนี้ก็เปลี่ยนถังมาใหม่ จากนั้นขณะเจ้าหน้าที่พยาบาลนำผู้ป่วยมาด้านหลังรถและจะพาผู้ป่วยเข้ารถ ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นภายในรถเสียงดังตูมสนั่น และเกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ตนจึงรีบวิ่งไปดูที่หน้ารถ เพราะมีลูกชายอายุ 17 ปี นั่งมาด้วยกับลูกของน้องสาวอีก 1 คน อายุ 1 ขวบ 7 เดือน แต่โชคดีที่ลูกชายพอได้ยินเสียงระเบิด ได้อุ้มน้องกระโดดลงมาจากรถได้ทันและไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ส่วนตนพอได้ยินเสียงระเบิด ก็รีบวิ่งไปที่หน้ารถเพื่อที่จะไปดูลูก จนใบหน้าของตนถูกไฟคลอกได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนผู้ป่วยกับญาติไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่า น่าจะเกิดจากถังออกซิเจนน่าจะเกิดรอยรั่วทำให้ออกซิเจนในถังไหลออกมา และน่าจะเกิดประกายไฟจนทำให้เกิดระเบิดขึ้น อย่างไรก็ตามต้องให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบอีกครั้ง

ด้าน นายแพทย์ พงษ์นรินทร์ ชาติรังสรรค์ ผู้อำนวยการโรงพระยาบาลเจ้าพระยายมราช กล่าวว่า ขั้นตอนต่อไปจะต้องมีการนำเครื่องมาตรวจวัดค่าควันและกลุ่มแก๊ส เพราะว่าภายในอาคารมีกลุ่มควันเข้ามา ส่วนความเสียหายของรพ. มีแค่รถตู้และฝ้าเพดาน ส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด เพราะว่าอยู่ในชั้นที่ 4 – 6 ของอาคาร ส่วนผู้ป่วยที่จะกลับบ้านในครั้งนี้ ทางโรงพยาบาลได้ให้อยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีก 1 วัน เพื่อรอดูอาการต่อไป อย่างไรก็ดี ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อดำเนินการต่อไป