รู้จัก “ระเบิดฝน” ปรากฏการณ์ฝนสุดขั้วยุคโลกร้อน

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โลกของเรากำลังเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่รุนแรงและบ่อยครั้งขึ้น หนึ่งในปรากฏการณ์ที่ถูกพูดถึงมากคือ “ระเบิดฝน” (Rain Bomb) ซึ่งหมายถึงการที่ฝนตกหนักอย่างรุนแรงในระยะเวลาสั้น ๆ จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินในหลายพื้นที่ทั่วโลก แม้คำว่า Rain Bomb จะยังไม่ถูกนิยามอย่างเป็นทางการ แต่ ศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิทยาศาสตร์ทางทะเลจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้อธิบายว่าโดยทั่วไปหมายถึง “ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องและรุนแรงในปริมาณมหาศาล จนทะลุขีดจำกัดของพื้นที่ในการรองรับน้ำฝน” ซึ่งหากเกิดขึ้นบนภูเขาหรือในป่า ก็อาจก่อให้เกิดน้ำป่าไหลหลากในทันที
ทางด้าน กรมอุตุนิยมวิทยา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปรากฏการณ์ลักษณะนี้ในทางวิชาการมักเรียกว่า “ฝนเอ็กซ์สตรีม” หรือ Extreme Rainfall ซึ่งหมายถึงฝนที่ตกหนักมากในพื้นที่จำกัด แต่ส่งผลกระทบกว้างขวางและรุนแรง
แล้วทำไม “ระเบิดฝน” ถึงเกิดขึ้นบ่อยขึ้น? คำตอบคือ ภาวะโลกร้อน มหาสมุทรที่ร้อนขึ้นทำให้เกิดการระเหยของน้ำมากขึ้น ส่งผลให้ไอน้ำสะสมตัวในชั้นบรรยากาศจำนวนมหาศาล เมื่อเงื่อนไขเหมาะสม ไอน้ำเหล่านี้ก็จะตกลงมาเป็นฝนในปริมาณมหาศาลในช่วงเวลาสั้น ๆ มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ระบุว่า ทุก ๆ การเพิ่มขึ้น 1 องศาเซลเซียสของอุณหภูมิเฉลี่ยโลก จะทำให้ชั้นบรรยากาศกักเก็บความชื้นได้เพิ่มขึ้นประมาณ 7% ซึ่งหมายความว่าโอกาสเกิดฝนหนัก ฝนเอ็กซ์สตรีม หรือ “ระเบิดฝน” จะยิ่งเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
สิ่งที่ทำให้ “ระเบิดฝน” น่ากังวลที่สุดคือ ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ในระยะยาว นักอุตุนิยมวิทยาอาจพอเตือนภัยได้ใกล้เวลาที่จะเกิดเหตุ แต่การทำนายล่วงหน้าหลายวันหรือหลายสัปดาห์ยังเป็นไปได้ยาก นั่นทำให้หลายประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับความสูญเสียจากภัยพิบัติทางน้ำที่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน
ดังนั้น “ระเบิดฝน” คือสัญญาณชัดเจนของโลกที่ร้อนขึ้น และเป็นความท้าทายใหม่ที่มนุษยชาติต้องเผชิญ การทำความเข้าใจและยอมรับว่าภาวะโลกร้อนเป็นต้นเหตุสำคัญ คือก้าวแรกที่จะช่วยให้สังคมหันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากยิ่งขึ้น
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
