ปาเจโรซิ่งชนคนในงานบวช เจ็บ 15 ราย สาหัส 5 เสียชีวิต 2 คนขับหนี พบเสื้อกั๊ก ส.อบต.ในรถ

เมื่อกลางดึกวันที่ 7 มิถุนายน พ.ต.ท.นิพล แท่นรัตน์ พนักงานสอบสวน สภ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพกู้ภัยในพื้นที่เร่งระดมผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 10 ราย นำส่งโรงพยาบาลอำเภอป่าพะยอมและโรงพยาบาลอำเภอศรีบรรพต จ.พัทลุง โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกรถปาเจโร 7 ที่นั่ง สีขาว ทะเบียน กอ 7199 สงขลา พุ่งชนเข้าอย่างจัง เหตุเกิดในพื้นที่บ้านปากเหมือง หมู่ 8 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง

อุบัติเหตุดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 ราย มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบร่าง น.ส.เพ็ญนภา พุ่มบวบ อายุ 19 ปี ชาว อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง นอนเสียชีวิตอยู่กลางถนน สภาพศพมีแผลฉีกขาดตามร่างกาย กระดูกหักหลายจุด นอกจากนี้ ยังพบ นายสมชาย หมื่นนะ อายุ 54 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลป่าพะยอมรีบส่งตัวต่อไปโรงพยาบาลพัทลุง ก่อนจะเสียชีวิตที่ห้องฉุกเฉิน

ที่เกิดเหตุยังพบรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย 13 คัน ทุกคันอยู่ในสภาพล้มระเนระนาด โดยมีรถจักรยานยนต์ที่อัดติดอยู่ใต้ท้องรถปาเจโรเช่นกัน ในสภาพพังยับเยินทั้งคัน ส่วนรถปาเจโรได้พุ่งชนอัดติดเข้ากับลวดหนามและต้นไม้ข้างทาง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่พบตัวผู้ขับขี่ หรือเจ้าของรถ ตรวจสอบภายในรถพบเสื้อกั๊กสะท้อนแสง ปักชื่อด้านหลังเป็น สมาชิกของ อบต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะสอบค้นประวัติเจ้าของรถเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมต่อไป

จากการสอบถามชาวบ้านผู้อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะที่แขกมาร่วมงานและญาติพี่น้องกำลังเต้นกันอยู่บริเวณหน้าเวทีดนตรีสด ตั้งอยู่ตรงกันข้ามกับเต็นท์งานบวช มีถนนอยู่ระหว่างกลาง ซึ่งเป็นถนนสายบ้านปากเหมือง-ห้วยแดง แขกที่มาร่วมงานได้ยืนเต้นกันอยู่บนถนนหน้าเวทีจำนวนมาก จู่ๆ ก็มีรถปาเจโรขับพุ่งตรงเข้ามา และชนเข้ากับผู้คนจนกระเด็นกันไปคนทิศทาง ก่อนจะพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่จอดเรียงกันอยู่ข้างถนนจนล้มระเนระนาดไปเป็นทาง ชาวบ้านก็สงสัยว่าทำไมถึงขับเข้ามาด้วยความเร็วทั้งๆ ที่ก่อนถึงงานบวชก็มีไฟสัญญาณเตือนที่คอยบอกว่าข้างหน้ามีงานบวชอยู่ ทำไมถึงไม่เห็น หลังเกิดเหตุก็ไม่พบตัวคนขับรถเลย

พนักงานสอบสวนจึงบันทึกภาพที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำรถที่ได้รับความเสียหายทุกคันไป สภ.ป่าพะยอม เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และจะตรวจสอบเจ้าของรถปาเจโรว่าใครเป็นผู้ครอบครอง ใครเป็นผู้ขับขี่ และจะเรียกมาสอบสวนสอบต่อไป