FORTHเต่าบินสุดฮอต ขยายเร็วเข้าตลาดปี66

#FORTH #ทันหุ้น - FORTH เตรียมนำ “เต่าบิน” เข้าตลาดหุ้น กลางปี 2566 กระแสดีเร่งติดตั้ง ชู 1.2 พันตู้ ขายวันละ 2.5-2.6 ล้านบาท ปีนี้ขยายครบ 5 พันตู้ คาดปี 2567 แตะ 2 หมื่นตู้ตามแผน ย้ำเป็นตู้คาเฟ่ที่มีชนิดน้ำดื่มมากที่สุดในโลก พร้อมเดินหน้าติดตั้งที่ชาร์จอีวีคอนโดมิเนียม-โรงแรม มั่นใจรายได้ตามเป้า 15-20% ลุยประมูลงานกว่า 9 พันล้านบาท
นายชัชวิน พิพัฒน์โชติธรรม ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร บริษัท ฟอร์ท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ FORTH เปิดเผยว่า ธุรกิจคาเฟ่อัตโนมัติ “เต่าบิน” (Tao Bin Café) ที่ดำเนินการผ่านบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด ในเครือ FORTH ปัจจุบันกระแสตอบรับดีมาก มีพันธมิตรติดต่อเข้ามาขอให้ไปดำเนินการติดตั้งตู้จำนวนมาก
ปัจจุบันมีการติดตั้งไปแล้วกว่า 1,200 ตู้ ในปี 2565 คาดว่าจะติดตั้งจำนวน 5,000 ตู้ และบริษัทมีเป้าหมายปี 2567 ว่าจะสามารถติดตั้งได้ถึงระดับ 20,000 ตู้
ซึ่งขณะนี้มีการจำหน่ายน้ำในตู้ราว 170 ชนิด ซึ่งเป็นการจำหน่ายน้ำที่มีปริมาณชนิดมากที่สุดในโลก และยังเตรียมที่จะขายโจ๊กเพิ่ม ที่ผ่านมาลูกค้าชื่นชอบอย่างมาก เพราะมีราคาที่ถูก อร่อย สะอาดและมีความหลากหลาย
ขณะนี้ตู้เต่าบินมียอดจำหน่ายราว 70 แก้วต่อวันต่อตู้ ส่งผลให้มีรายได้ราว 2.5-2.6 ล้านบาทต่อวัน อย่างไรก็ดีบริษัทอยู่ระหว่างเตรียมที่จะนำบริษัท ฟอร์ท เวนดิ้ง จำกัด เข้าตลาดหุ้นกลางปี 2565 คาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ SET โดยในไตรมาส 1/2565 ฟอร์ท เวนดิ้ง สามารถทำกำไรได้แล้ว
@ตู้เต่าบินกระแสแรง
“ขณะนี้ ตู้เต่าบิน ได้รับการตอบรับที่ดีมาก มีลูกค้ามาใช้บริการได้จำนวนมาก และมีพันธมิตรที่ติดต่อมาติดตั้งตู้จำนวนมาก ซึ่งปัจจุบันมีการติดตั้งตู้ได้ราววันละ 10 ตู้ ซึ่งก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันมีการจำหน่ายน้ำราว 170 ชนิด สามารถเคลมได้ว่ามีจำนวนชนิดมากที่สุดในโลก ขณะนี้เทียบกับตู้ในหลายๆ ประเทศ ดังนั้นผลประกอบการของตู้เวนดิ้งในไตรมาส 1/2565 นี้สามารถทำกำไรได้แล้วและมีแผนที่จะไปจำหน่ายที่ต่างประเทศด้วยในปีหน้าและนำเข้าจะทะเบียนในตลาดหุ้นต่อไป” นายชัชวิน กล่าว
ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้าในการทำตลาดที่สถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ซึ่งการเติบโตจะสอดคล้องกับความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่มีโอกาสที่มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากการทำตลาดของค่ายรถยนต์ อย่างมอเตอร์โชว์ก็มียอดจองรถไฟฟ้าจำนวนมาก แต่การส่งมอบรถอาจจะไม่ได้เร็วมากนัก อาจจะเป็นช่วงปลายปี ดังนั้นคาดว่าการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าจะแพร่หลายน่าจะเป็นปีหน้า แต่ก็เริ่มทยอยติดตั้ง EV Chargerไปบ้างแล้วกว่า 20 แห่ง โดยจะเน้นเป็นคอนโดมิเนียมและโรงแรม เพราะยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก
@ประมูลงานที่ 9 พันล้านบาท
สำหรับปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะเติบโต 15-20% จากปีก่อนที่มีรายได้ 8,812 ล้านบาท โดยการเติบโตจะมากจากทุกธุรกิจทั้งในส่วนของ ธุรกิจอีเอ็มเอส ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชันส์ และธุรกิจสมาร์ทเซอร์วิส โดยเฉพาะในส่วนของธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรซ์ โซลูชั่น นั้นมีโอกาสเติบโตอีกมาก
ช่วงไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมาผลประกอบการก็อยู่ในระดับที่ดี พร้อมกันนี้บริษัทก็เตรียมเข้าร่วมการประมูลงานใหม่ อาทิ งานส่วนของกำไร EM, งานวิทยุสื่อสาร เป็นต้น คาดว่าปีนี้จะมีงานออกมาประมูลกว่า 8-9 พันล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันงานในมือ (Backlog)ที่ 900 ล้านบาท จะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้ทั้งหมด