Spot หุ่นยนต์สุนัขถูกนำมาใช้ในหน่วยดับเพลิงกรุงนิวยอร์กเพื่อลดความเสี่ยงในภารกิจอันตราย
หุ่นยนต์สุนัขจากบริษัท Boston Dynamics มีนามว่า Spot ถูกวางขายอยู่ที่ราคาตัวละ 75,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 2.5 ล้านบาท ในตอนนี้หน่วยดับเพลิงของกรุงนิวยอร์กได้หันมาใช้หุ่นยนต์สุนัขในภารกิจอันตรายเพื่อลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่และเพื่อผลลัพธ์การทำงานที่ดีที่สุด
Spot ถูกออกแบบมาให้คล้ายกับสุนัข ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานผ่านแท็บเล็ตและสามารถตั้งโปรแกรมให้ทำคำสั่งซ้ำได้ มันมีน้ำหนักเพียง 70 ปอนด์ หรือราว ๆ 31 กิโลกรัม เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเคลื่อนย้ายหุ่นยนต์ได้ง่าย ด้วยกล้อง 360 องศา มันจะสามารถประมวลผลเพื่อสร้างแผนที่ให้กับตนเองได้และไม่เดินชนเข้ากับสิ่งกีดขวาง นอกจากนี้มันยังเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 1.6 เมตรต่อวินาที มันสามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งบนทางลาด ทางชัน และบนพื้นผิวที่หลากหลาย บรรทุกของได้มากถึง 14 กิโลกรัม สามารถทำงานได้ในอุณหภูมิตั้งแต่ -20 องศาเซลเซียส ไปจนถึง 45 องศาเซลเซียส มีคุณสมบัติทนทานต่อแดด ฝน และฝุ่น ใช้พลังงานจากแบตเตอรีซึ่งออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนเองได้ง่าย
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้ทำให้ Spot ดูเหมือนสามารถตอบโจทย์การทำงานของหลาย ๆ หน่วยงานได้ ก่อนหน้านี้มันถูกนำไปใช้โดยสำนักงานตำรวจแห่งนครนิวยอร์กแต่ก็ตกเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากจากคนในพื้นที่ พวกเขาเกรงว่าหุ่นยนต์นี้จะถูกนำมาใช้เป็นอาวุธจนสุดท้ายสำนักงานตำรวจแห่งนครนิวยอร์กก็ได้ยกเลิกการเช่าใช้งานหุ่นยนต์สุนัขนี้ไป
อย่างไรก็ตามสำหรับหน่วยงานดับเพลิงของกรุงนิวยอร์กกลับเห็นว่าหุ่นยนต์ Spot มันสามารถให้ข้อมูลที่สำคัญท่ามกลางเหตุการณ์ที่เลวร้ายได้ มีความสามารถในการลงไปใต้ดินลึกหลังจากไอน้ำรั่วเพื่อรวบรวมภาพและข้อมูลเกี่ยวกับเศษซากที่เป็นอันตราย นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้หลังจากอาคารถล่มเพื่อวัดความสมบูรณ์ของโครงสร้างหรือวัดความเข้มข้นของก๊าซพิษที่ติดไฟได้ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ เพื่อแจ้งให้นักผจญเพลิงตอบสนองต่อที่เกิดเหตุได้ดีขึ้น ทางหน่วยงานจึงได้จัดซื้อ Spot มาใช้งานจำนวน 2 ตัว และจะใช้ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์อันตรายมาก ๆ เท่านั้น โดยจะไม่นำมาใช้พร่ำเพรื่อ นอกจากนี้ยังมีการรณรงค์เกิดขึ้นในนิวยอร์กด้วยเช่นกันเพื่อให้คนในพื้นที่กรุงนิวยอร์กเห็นว่าหุ่นยนต์นี้ไม่ได้ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธในทางที่ไม่ชอบ
ข้อมูลจาก www.bostondynamics.com
ภาพจาก blog.bostondynamics.com