ไต้ฝุ่นโคนี พัดถล่มฟิลิปปินส์ ดับแล้ว 4 ราย อพยพนับแสน
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ไต้ฝุ่นโคนีที่พัดถล่มประเทศฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย หลังจากไต้ฝุ่นโคนี ที่ถือว่ารุนแรงที่สุดในปีนี้สำหรับฟิลิปปินส์ ได้พัดขึ้นฝั่งที่เกาะคาตันดวนส์ ในช่วงรุ่งสาง ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ข่าวระบุว่า พายุที่พัดรุนแรง ได้พัดเอาหลังคาบ้านเรือนปลิวไปหลายหลัง และยังทำให้ต้นไม้หักโค่น และเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ในหลายพื้นที่ โดยไต้ฝุ่นโคนี ลดระดับความรุนแรงจาก “ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น” ลงเป็น “ไต้ฝุ่น” ขณะพัดผ่านตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ และที่เกาะลูซอนที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ ก่อนจะมุ่งหน้าไปยังกรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์
โดยสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของฟิลิปปินส์ประกาศเตือนว่า ความรุนแรงของลมที่เกิดจากไต้ฝุ่นจะทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก และทำให้เส้นทางที่พายุพัดผ่านได้รับความเสียหายอย่างหนัก ซึ่งรวมทั้งจังหวัดที่อยู่ใกล้กับกรุงมะนิลาด้วย
ทั้งนี้ ไต้ฝุ่นโคนี ซึ่งมาจากภาษาเกาหลี ที่แปลว่า “หงส์” เกิดขึ้น 1 สัปดาห์ หลังจากที่ไต้ฝุ่นโมลาเบ เพิ่งจะพัดถล่มพื้นที่เดียวกันในฟิลิปปินส์ไป และทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 22 ราย
ขณะที่ไต้ฝุ่นโคนี ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์แล้วอย่งน้อย 4 ราย ซึ่งรวมทั้งเด็ก 5 ขวบ 1 ราย ในจังหวัดอัลเบย์ ส่วนเหยื่อจมน้ำตาย ขณะที่อีกคนหนึ่ง ถูกเคลื่อนโคลนจากภูเขาไฟพัดพาไป และอีกรายหนึ่งถูกต้นไม้ทับตาย
เบื้องต้นมีรายงานอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้วเกือบ 3.5 แสนคน ส่วนในกรุงมะนิลา มีการอพยพผู้คนออกจากพื้นที่สลัมที่อยู่ในที่ราบต่ำไปยังที่ๆปลอดภัย และมีรายงานต้องปิดสนามบินชั่วคราวในขณะที่ไต้ฝุ่นเข้าใกล้