THAI ลั่นปี 64 พ้นจุดต่ำสุด เล็งกู้ 25,000 ล.ลุยต่อยอด
ข่าววันนี้ THAI ลั่นพ้นจุดต่ำสุดปี 2564 หวังธุรกิจจะฟื้นตัวจากภาครัฐคลายมาตรการล็อกดาวน์และเปิดประเทศจาก Test & go นักท่องเที่ยวตอบรับ พร้อมทั้งลดต้นทุนค่าใช้จ่าย-พนักงานได้บางส่วน เตรียมแผนกู้เงินอีก 25,000 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจ ปักธงออกจากแผนฟื้นฟูได้เร็วกว่าที่คาดเอาไว้ก่อน 5 ปี
นายปิยะสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือTHAI กล่าวว่า บริษัทได้เจรจาสินเชื่อใหม่จากกลุ่มเจ้าหนี้จาก 5 สถาบันการเงิน ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL ธนาคารออมสิน จำกัด ธนาคาร กรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM Bank และธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน )หรือ KBANK อีกจำนวน 25,000 ล้านบาท
ทั้งนี้จุดประสงค์เพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้มีการเจรจากับเจ้าหนี้อย่างต่อเนื่อง และต้องใช้ระยะเวลาในการพิจารณา เนื่องจากเจ้าหนี้ก็ต้องพิจารณาถึงความสามารถในการใช้หนี้ เช่น แผนผลดำเนินการที่จะสร้างกำไรและผลตอบแทนในอนาคต รวมถึงสินทรัพย์ที่นำไปค้ำประกันในการกู้ เช่น อสังหาริมทรัพย์,เครื่องบินที่การบินไทยเป็นเจ้าของ จำนวนเครื่องบินที่รอการขาย รวมถึงสำนักงานสาขาที่ประจำอยู่ทั้งในและต่างประเทศ ก็ถือว่ามีมูลค่าที่เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันได้
ฟื้นฟูเร็วกว่าแผน
สำหรับแนวโน้มธุรกิจก็เชื่อว่าจะฟื้นตัวดีขึ้นจากสถานการณ์ที่ภาครัฐผ่อนคลายเช่น การปลดล็อกเปิดประเทศ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทย ผ่านมาตรการ Test&Go ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น อีกทั้งเชื่อว่าหลายประเทศก็เริ่มทยอยผ่อนคลายเปิดประเทศแล้วเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะยุโรปและออสเตรเลีย ส่วนประเทศในเอเชีย เช่น เกาหลี ญี่ปุ่นก็คาดว่าจะทยอยเปิดในช่วงครึ่งปีหลัง 2565
ปัจจุบันการบินไทยมีจำนวนเครื่องบินที่ให้บริการทั้งหมดจำนวน 58 ลำ ภายในเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน 2565 จะทยอยเข้ามาเพิ่มอีกจำนวน 3 ลำ และยังมีเครื่องบินที่รอการขายจำนวน 42 ลำ
จากแผนการดำเนินงานต่างๆ เชื่อว่าการบินไทยจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูก่อน 5 ปี หลังปรับโครงสร้างทุนใหม่ เนื่องจากบริษัทได้ลดค่าใช้จ่ายลงไปได้มาก ขณะเดียวกันหลายประเทศก็ทยอยเปิดประเทศ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละประเทศ รวมถึงประเทศไทยที่จะมีมาตรการต่างๆ ออกมาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 การบินไทยก็จะยังมีผลขาดทุน แต่ปีหน้ามีโอกาสกลับมามีกำไร
ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
ด้านนายชาย เอี่ยมศิริ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่สายการเงินและการบัญชี THAI กล่าวว่า การได้รับสินเชื่อใหม่ 2.5 หมื่นล้านบาท และการปรับโครงสร้างทุนใหม่ที่จะให้ผู้ให้สินเชื่อใหม่ มีความมั่นใจ และบริษัทเดินหน้าต่อได้ ประกอบกับบริษัทมีผลประกอบการดีขึ้น ก็ทำให้ขาดทุนสะสมของบริษัทลดลง โดยผลประกอบการปี2564 เชื่อว่าการบินไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ระบาดอย่างต่อเนื่องทำให้แต่ละประเทศจำเป็นต้องปิดประเทศ ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินปรับตัวลดลงและส่งผลกระทบต่อผลประกบการ
สำหรับผลประกอบการปี 2564บริษัทและบริษัทย่อยมีรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว-สุทธิเป็นรายได้รวม 81,525 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ การปรับโครงสร้างองค์กรและโครงสร้างค่าตอบแทนบุคลากรและกำไรจากการขายเงินลงทุนและทรัพย์สิน
ส่งผลให้บริษัทและบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานในปี 2564 มีกำไรสุทธิจำนวน 55,113 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนสุทธิ 141,180 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ 55,118 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น25.25 บาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนต่อหุ้น 64.67 บาท