ChatGPT ใช้ในชีวิตประจำวันมากกว่าทำงาน

ผลการศึกษาของสถาบันวิจัยเศรษฐกิจแห่งสหรัฐฯ (NBER) ที่จัดทำโดยทีมวิจัยเศรษฐกิจทั้งจาก “โอเพนเอไอ” (OpenAI) ผู้พัฒนาแชตบอต “แชตจีพีที” (ChagGPT) และนักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ระบุข้อมูลการใช้งาน ChatGPT ในเชิงลึกเป็นครั้งแรก พบว่า ผู้คนส่วนใหญ่ใช้งาน ChatGPT ในการทำภารกิจประจำวัน ทั้งที่สามารถใช้ในการทำงานที่ซับซ้อนได้มากกว่านั้น อาทิ การเขียนโค้ด
ข้อมูลดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์บทสนทนา 1.5 ล้านบทสนทนา ซึ่งรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ โดยราว 3 ใน 4 ของการสนทนากับ ChatGPT แบ่งออกเป็น 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ การขอคำแนะนำเชิงปฏิบัติ (Practical Guidance), การค้นหาข้อมูล (Seeking Information) และการเขียน (Writing)
กรณีการขอคำแนะนำเชิงปฏิบัติมีการใช้งานบ่อยที่สุด ครอบคลุมถึงการขอให้สอนพิเศษ การให้คำแนะนำต่าง ๆ และการสร้างสรรค์ไอเดีย
แต่การใช้งานจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นการใช้งานในที่ทำงานหรือใช้งานส่วนบุคคล ยกตัวอย่างเรื่องการเขียนถูกพบส่วนใหญ่ในสถานที่ทำงาน โดยมีสัดส่วนเฉลี่ยราวร้อยละ 40 ในเดือนมิถุนายน และราว 2 ใน 3 ของข้อความที่แชตกับ ChatGPT ขอให้ปรับแก้ วิพากษ์วิจารณ์ และแปลข้อความ
ในเดือนกรกฎาคม ประมาณครึ่งหนึ่งของข้อความทั้งหมดอยู่ในรูปแบบ “การถาม” (Asking) ซึ่งนักวิจัยอธิบายว่า ผู้คนให้ความสำคัญกับ ChatGPT ในฐานะที่ปรึกษามากกว่าทำงานให้เสร็จ ส่วนอีก 2 รูปแบบ คือ การสั่งให้ทำ (Doing) และการแสดงออก (Expressing)
ผลการศึกษาในเดือนกรกฎาคม ระบุว่า ฐานผู้ใช้ ChatGPT เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 10 ของประชากรวัยผู้ใหญ่ทั่วโลก และมีการใช้งานแพร่หลายมากขึ้นในทุกเพศ ทุกวัยและทุกประเทศ
ยกตัวอย่างสัดส่วนผู้ใช้งานที่ชื่อบ่งชี้ว่าเป็นเพศหญิงได้เพิ่มขึ้นเป็นกว่าร้อยละ 52 จากร้อยละ 37 ในเดือนมกราคมปีที่แล้ว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
