รายแรกของโลก! มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตเด็ก 9 ขวบ

วันนี้( 18 ธ.ค.63) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กรณีการเสียชีวิตของเด็กหญิงเอลลา คิสซี-เดบราห์ วัย 9 ขวบ เมื่อปี 2556 ทำให้ครอบครัวลุกขึ้นเรียกร้องความยุติธรรม เพราะจากผลการชันสูตรศพพบว่า เด็กหญิงคนนี้ป่วยเป็นโรคหอบหืด และอาการแทรกซ้อนอื่นที่มีต่อระบบหายใจ ทำให้เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นและระบบทางเดินหายใจและต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลฉุกเฉินเข้าโรงพยาบาลมากถึง 27 ครั้งในช่วง 3 ปี แต่อาการไม่ดีขึ้นจนสุดท้ายจากไปตลอดกาล โดยแพทย์ระบุว่า สาเหตุเพราะเด็กน้อยสัมผัสกับมลพิษทางอากาศมากเกินไป 

เบื้องต้นผลการสำรวจสภาพแวดล้อมที่เด็กหญิงอยู่อาศัย พบว่าบ้านตั้งอยู่ใกล้กับถนนเซาธ์ เซอร์คิวลาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงลอนดอน ซึ่งมีระดับไนโตรเจนไดออกไซด์ ( เอ็นโอทู ) สูงเกินมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ( WHO ) และสหภาพยุโรป ( อียู ) กำหนดเอาไว้ 

ด้านแม่ของเด็กหญิงที่เดินทางมาขึ้นศาลรับฟังการไต่สวนพิจารณาคดีระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับบุตรสาวของเธอเป็นความยุติธรรมที่เธอสมควรได้รับ พร้อมทั้งอยากกรณีของลูกสาวเธอเป็นบทเรียนให้ทุกฝ่ายร่วมกันแก้ปัญหาด้านมลพิษ นำไปสู่การเสนอพระราชบัญญัติอากาศบริสุทธิ์ฉบับใหม่และสำหรับรัฐบาล ไม่เฉพาะแค่รัฐบาลสหราชอาณาจักรเท่านั้น แต่อยากกระตุ้นเตือนให้รัฐบาลทั่วโลกให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง

ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกรายงานว่า มลพิษทางอากาศคร่าชีวิตผู้คนประมาณเจ็ดล้านคนทั่วโลกทุกปี สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าการเสียชีวิตคือคนทั่วโลก 9 ใน 10 คนหายใจในอากาศที่เต็มไปด้วยมลพิษเกินขีดจำกัด 

เกาะติดข่าวที่นี่