ทัพเมียนมา “เสียใจ” ฆ่าคนชาติเดียวกัน แต่จะต้องกวาดล้าง “อนาธิปไตย” ให้ได้
ทัพเมียนมา “เสียใจ” - วันที่ 23 มี.ค. เอเอฟพี รายงานว่า นายพลจัตวากองทัพบก จอ มิน โฆษกคณะรัฐประหารเมียนมา เปิดแถลงที่กรุงเนปยีดอว์ แสดงความเสียใจที่มีผู้เสียชีวิตจำนวน 164 ราย ในการสลายการประท้วงของผู้ชุมนุม แต่ประกาศกร้าวจะเดินหน้ากวาดล้างผู้ทำให้บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแปต่อไป
"ผมเสียใจเพราะว่าผู้ก่อการร้ายและความรุนแรงนี้เป็นคนชาติเดียวกับเรา เราต้องกวาดล้างอนาธิปไตยให้ได้ ประเทศไหนในโลกยอมรับอนาธิปไตยด้วยหรือ" โฆษกคณะรัฐประหารเมียนมา และอ้างว่ากองกำลังความมั่นคงต้องเผชิญกับกลุ่มติดอาวุธ จนมีตำรวจ 5 นาย และทหาร 4 นาย เสียชีวิตไปแล้ว
คำแถลงดังกล่าวมียอดตัวเลขผู้เสียชีวิตของทางการ ต่างจากยอดของกลุ่มสังเกตการณ์ที่สหประชาชาติใช้อ้างอิงว่าสูงถึง 260 ราย แล้ว นอกจากนี้ เป็นที่สังเกตว่า การแถลงข่าวครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลสหภาพยุโรปเดินหน้าใช้มาตรการลงโทษคณะทหารของเมียนมาที่ก่อรัฐประหารและใช้ความรุนแรงปราบปรามประชาชน
กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศรายชื่อบุคคลในบัญชีดำเพิ่มเติมเพื่อลงโทษทางเศรษฐกิจ ได้แก่ พลตำรวจตัน ไหล่ ผู้บัญชาการตำรวจ และ นายพลออง โซ ผู้บัญชาการพิเศษกองทัพเมียนมา ฐานสั่งการใช้กำลังอาวุธที่ร้ายแรงถึงชีวิตปราบม็อบจนทำให้มีผู้เสียชีวิตในสถานการณ์ที่ผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารประท้วงบนท้องถนนหลายสาย ทั้งที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงใช้อาวุธที่ไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่เมื่อพลตำรวจต่าน ไหล่ ขึ้นเป็นผบ.ตร.และรัฐมนตรีกิจการภายใน ตำรวจเริ่มสังหารผู้ชุมนุม
ส่วนนายพลออง โซ ที่ทำหน้าที่ส่งกองกำลังไปเผชิญหน้ากับผู้ประท้วงโดยใช้อาวุธและเทคนิคในสมรภูมิรบ มีการวางแผนไตร่ตรองล่วงหน้าและมีการประสานงานในการใช้อาวุธที่รุนแรงถึงชีวิต บทลงโทษดังกล่าวคือการยึดทรัพย์ทั้งสองที่อยู่ในสหรัฐ ห้ามเข้าถึงระบบการเงินโลก และห้ามชาวอเมริกันทำธุรกิจด้วย
ด้านสหภาพยุโรปหรืออียูประกาศแซงก์ชั่น พลเอกมิน อ่องไหล่ หัวหน้าคณะรัฐประหารเมียนมา ยึดทรัพย์และขึ้นบัญชีดำห้ามออกวีซ่าให้ ฐานเป็นผู้ทำลายประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม นอกจากนี้ ลงโทษเจ้าหน้าที่ทหารอาวุโสอีก 9 นาย รวมถึงหัวหน้าคณะกรรมการการเลือกตั้ง
นับเป็นการตอบโต้คณะรัฐประหารเมียนมาที่ครอบคลุมที่สุดของอียูนับตั้งแต่กองทัพก่อการยึดอำนาจจากรัฐบาล นางออง ซาน ซู จี เมื่อวันที่ 1 ก.พ. จากข้อมูลของสมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมือง มีผู้ประท้วงถูกจับกุมกว่า 2,600 คน เสียชีวิตกว่า 260 ราย
นายไฮโก มาส รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี กล่าวว่า จำนวนของผู้ที่ถูกสังหารมาถึงจุดที่อียูไม่อาจอดกลั้นได้ จึงทำให้ต้องตัดสินใจแซงก์ชั่น ด้าน นายแอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวว่า การแซงก์ชั่นของอียูและสหรัฐส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งว่า เราจะดำเนินการโต้ตอบผู้นำรัฐประหารและผู้ที่ใช้ความรุนแรง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ทีมงานชาวออสซี่ของ ‘อองซาน ซูจี’ ถูกกองทหารเมียนมา จับเพิ่มอีก 2 ราย
ชาวเมียนมา เปิดเว็บแฉความฟุ่มเฟือย ครอบครัวคณะรัฐมนตรีเผด็จการ
อียู แบนวีซ่า-ยึดทรัพย์ มินอ่องไหล่-10 ทหารเอี่ยวยึดอำนาจ สหรัฐคว่ำบาตรเพิ่มอีก