ไม่ใช่คดีแรก! สายลับสาวพราวเสน่ห์ ล่อจับยาบ้า ได้ของกลางเกือบ 2 แสนเม็ด
จังหวัดมหาสารคามแถลงข่าวรวบผู้ต้องหาค้ายาเสพติด ผู้ต้องหาเสียท่าหลังถูกสายลับสาวเข้าแฝงตัวร่วมเครือข่ายยาเสพติด ก่อนถูกจับพร้อมของกลางเกือบสองแสนเม็ด
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 7 ธันวาคม นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม และเจ้าหน้าที่ชุดปรามปรามยาเสพติด สภ.เมืองมหาสารคาม ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ได้แก่ นายสิทธิศักดิ์ หรือ แซก อายุ 23 ปี ราษฏรตำบลเขวา อ.เมือง จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 195,390 เม็ด โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และรถจักรยานยนต์ 1 คัน
พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.เมืองมหาสารคาม ได้ติดตามพฤติกรรมของเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ตำบลเขวา อ.เมืองมหาสารคาม มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยสืบทราบว่านายแซก ได้นำยาบ้ามาขายให้กับลูกค้าและมีการรวมกลุ่มนัดมั่วสุมเสพยาบ้ากันในพื้นที่
จึงได้ส่งสายลับชื่อนางบี แฝงตัวเข้าในกลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ต่อมาได้รับการประสานจากนางบีว่าจะมีการนัดมั่วสุมเสพยาบ้า และนัดส่งยาบ้ากันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ตำบลเขวา อ.เมืองมหาสารคาม จึงได้วางกำลังดังซุ่มบริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ
จนกระทั่งเห็นผู้ต้องหาขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาภายในรีสอร์ท เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อตรวจค้น พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ 390 เม็ด โดยรับสารภาพว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเอง และยังมียาบ้าอีกจำนวนหนึ่งอยู่ที่บ้านพัก จึงได้นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดยาบ้าที่บ้าน ซึ่งอยู่ในกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ ภายในพบยาบ้าบรรจุอยู่ในถุงกระสอบอีกจำนวน 195,000 เม็ด จึงยึดไว้เป็นของกลาง
โดยนายแซกรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดมาจากเอเย่นต์ที่ ส.ป.ป.ลาว โดยได้นำมาวางไว้ตามจุดที่นายจ้างสั่ง ได้รับค่าจ้าง 30,000 บาท ครั้งล่าสุดรับยามา 300,000 เม็ด โดย 100,000 เม็ดแรก ได้นำไปไว้วางตามจุดที่นายจ้างสั่งการในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ และมหาสารคามไปแล้ว ส่วนที่เหลือกำลังรอคำสั่งว่าจะให้เอาไปวางไว้ที่จุดไหน แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน ซึ่งนายแซกรับว่ารับจ้างเป็นนักบินขนยาบ้าครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ที่ผ่านมาเป็นผู้เสพ จากผู้เสพก็พัฒนาขึ้นมาเป็นผู้ขาย
สำหรับ สายลับสาวที่มาช่วยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจ ได้แฝงตัวเข้าไปในเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ได้ประมาณ 10 วัน ซึ่งเป็นหนึ่งวิธีการที่ใช้ในการสืบสวนจับกุม ซึ่งไม่ใช่กรณีแรกที่ใช้สายลับที่เป็นผู้หญิง โดยสายลับคนนี้สามารถช่วยเจ้าหน้าที่จับกุมเครือข่ายยาเสพติดไปแล้วหลายคดี
โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา จำหน่ายและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อการค้าก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและยาเสพยาเสพติดให้โทษ