RTเดินเกมชิงงานใหม่ ดันแบ็กล็อกแตะ7พันล.
ทันหุ้น – RT ลุ้นโควิด-19 คลี่คลาย หนุนผลงานไตรมาส 4/2564 ฟื้นตัว เดินหน้าลุยประมูลโครงการต่อเนื่อง คาดภายในสิ้นปี 2564 โกยงานใหม่ดัน Backlog แตะ 7,000 ล้านบาท จากปัจจุบันมีงานในมือกว่า 3,595.89 ล้านบาท ด้านผลการดำเนินงานปี 2564 คาดทำได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาที่ทำได้ 2,862.99 ล้านบาท
นายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT เปิดเผยถึงแนวโน้มไตรมาส 3/2564 คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อเนื่องจากไตรมาส 2/2564 อาทิ ปัญหาการขาดแคลนแรงงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งนี้บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์เพื่อมุ่งเน้นแก้ไขปัญหา โดยใช้กลุ่มผู้รับเหมาที่มีความเชี่ยวชาญในพื้นที่เข้ามารับช่วงงานต่อในกลุ่มงานก่อสร้างที่ไม่ใช่งานเฉพาะทาง และบริษัทเป็นผู้ควบคุมงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทยังได้รับอานิสงส์จากกรมบัญชีกลาง ที่มีมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในส่วนการต่ออายุสัญญางาน การงดหรือลดค่าปรับของงานก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และคาดว่าน่าจะดีขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4/2564
สำหรับการเติบโตของรายได้ปี2564 คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาหรือมีรายได้ประมาณ 2,862.99 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจาก โควิด-19 ทำให้รายได้ปรับลดลงมาเล็กน้อย สำหรับปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตยังเป็นงานในมือ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีนโยบายภาครัฐที่เตรียมแผนออกโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง
งานไหลเข้าพอร์ต
ณ สิ้นไตรมาส 2/2564 บริษัทมีงานในมือ 2,890 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น งานอุโมงค์ส่งน้ำช่วงแม่แตง-แม่งัด จ.เชียงใหม่, งานก่อสร้างอุโมงค์ในโครงการรถไฟทางคู่สายตะวันออกเฉียงเหนือ ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 3 จ.สระบุรี-จ.นครราชสีมา, งานก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรัก กรมชลประทาน จ.เลย, โครงการก่อสร้างบ่อพักและท่อร้อยสายไฟฟ้าใต้ดินร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และงานระบบระบายน้ำแม่แตง-แม่ขาน จ. เชียงใหม่ เป็นต้น ประมาณ 913 ล้านบาท
ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นงานเขื่อนและระบบชลประทาน ปัจจุบันมีอยู่ 2 สัญญา มูลค่าประมาณ 1,206.94 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงานประเภทงานดันท่อลอดใต้ดิน (Pipe Jacking) ปัจจุบันมีอยู่ 6 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 779.09 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีงานอื่นๆ อีกประมาณ 81.42 ล้านบาท และทยอยเพิ่มเข้ามาอีกจำนวน 3 โครงการ ส่วนใหญ่จะเป็นงานถนนทางภาคใต้ มูลค่าประมาณ 560 ล้านบาท และงาน Slope Protection อีก 2 โครงการ มูลค่าอีกประมาณ 55 ล้านบาท รวมงานที่เพิ่มเข้ามาส่งผล ปัจจุบันมูลค่างานในมือของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 3,595.89 ล้านบาท
รวมถึงบริษัทยังชนะการประมูลงานก่อสร้างโครงการปรับปรุงดินชั้นฐานราก อ่างเก็บน้ำมรสวบ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยสำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 กรมทรัพยากรน้ำ มูลค่างาน 102.64 ล้านบาท โดยรอลงนามสัญญาในช่วงไตรมาส 4/2564
แบ็กล็อกเเตะ 7 พันล.
นอกจากนี้บริษัทมีงานอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกประมาณ 600 กว่าล้านบาท โดยบริษัทมองว่าภายในสิ้นปี 2564 มูลค่างานในมือจะเติบโตขึ้นมาที่ระดับ 7,000 ล้านบาท โดยช่วงที่เหลือของปีบริษัทจะเตรียมประมูลงานเพิ่มเติม ได้เเก่ งานอุโมงค์ทางภาคเหนือ ซึ่งคาดว่าจะมีเข้ามาในเร็วๆ นี้ รวมถึงงานอุโมงค์ในกรุงเทพฯ และงาน Slope Protection ที่ทยอยออกมา
ทั้งนี้บริษัทมองว่างานสายไฟฟ้าลงดินในอนาคต ที่ภาครัฐสนับสนุนให้เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ และคาดว่าจะกระจายไปสู่จังหวัดในภูมิภาค ซึ่งบริษัทยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ประมาณ 13%
สำหรับราคาเหล็กในช่วงครึ่งปีแรกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งธุรกิจของ RT รายได้หลักจะมาจากการก่อสร้างอุโมงค์
ประมาณ60% และใช้เหล็กเป็นต้นทุนประมาณ5% แต่ ณ ปัจจุบันได้ปรับตัวลดลง และทรงตัวมากขึ้น โดยบริษัทได้มีการล็อกต้นทุนไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และบริษัทมีสัญญากว่า 80-90% ที่สามารถปรับราคาได้ และหากราคาเหล็กปรับตัวขึ้นมากๆ ก็เชื่อว่าจะสามารถบริหารความเสี่ยงและควบคุมต้นทุนได้