รีเซต

เตือนรักออนไลน์! หนุ่มใหญ่โอนหนัก 4 ล้านให้สาวที่หลงรักในเฟส

เตือนรักออนไลน์! หนุ่มใหญ่โอนหนัก 4 ล้านให้สาวที่หลงรักในเฟส
TNN ช่อง16
10 กรกฎาคม 2563 ( 08:13 )
171

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 ก.ค.63 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.คลองเกลือ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี  นายปรีชา ขอสงวนนามสกุล อายุ 53 ปี อดีตหัวหน้างานบริษัทผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชาวจังหวัดสระบุรี เดินทางเข้าร้องเรียนขอความช่วยเหลือจากนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อให้ช่วยเหลือติดตามเงินที่ถูกหลอกไปกว่า 4 ล้านบาท จากนางสาวจอย หญิง อายุ 32 ปี(ขอสงวนชื่อนามสกุล)ชาวจังหวัดเชียงใหม่  หลังรู้จักพูดคุยกันทางเฟสบุ๊กจนสนิทสนมคบหาเป็นแฟนและถูกหลอกให้โอนเงินไปทั้งๆที่ไม่เคยเห็นหน้า

นายปรีชา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อปี 2561 ตนเองรู้จักกับน้องจอยทางเฟสบุ๊ก พูดคุยกันตลอดทั้งวันทั้งคืนจนคบหาเป็นแฟน  หลังจากนั้นน้องจอยก็บอกว่าคุณพ่อเสียชีวิตไม่มีเงินจัดงาน เลยโอนไปให้สี่หมื่นบาทเพื่อช่วยเหลือ ให้หลังไม่กี่เดือนก็มาบอกว่าคุณแม่เสียอีกพร้อมถ่ายรูปในงานศพมาให้ดูตนก็ช่วยงานไปอีกสี่หมื่นบาท

จนกระทั่งวันที่ 28 ม.ค.63  ตนเองได้ขอเออรี่ออกจากงานที่ทำและได้เงินสดมาอีกกว่าสองล้านบาท น้องจอยได้ทักเฟสมาบอกว่าตนเองมีที่ดิน 3 ไร่กว่าที่เชียงใหม่จะขาย  แต่คนซื้อบอกว่าหน้าที่ดินแคบ  น้องเขาอยากซื้อที่ดินด้านข้างเพื่อให้หน้ากว้างจะได้ขายได้ตนจึงโอนเงินทางโทรศัพท์ไปให้น้องแจง 1.3 ล้านบาทในวันนั้น แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ขาย  ก็คิดว่าเป็นช่วงโควิด-19 ระบาด  คงซื้อขายกันไม่สำเร็จ 

จากนั้นน้องจอยได้เขียนจดหมายเป็นหลักฐานข้อความว่าจะอยู่กินเป็นสามีภรรยากับตนขอให้ตนมั่นใจได้  พร้อมปรับทุกข์ว่าไม่มีเงินใช้ที่ดินก็ไปจำนองแถมไปค้ำประกันเพื่อนซื้อรถจนถูกออกหมายจับ  ตนเองเกิดความสงสารเลยโอนเงินไปให้อีกหลายแสนบาทเพื่อไถ่ถอนที่ดินและช่วยเหลือคดีที่ไปค้ำประกัน รวมแล้วที่ผ่านมามีสลิปโอนเงินเป็นหลักฐานกว่า 4 ล้านบาท จนทุกวันนี้เหลือเงินติดกระเป๋าในชีวิตเพียงหมื่นกว่าบาท ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาเคลียร์บัตรเครดิต และผ่อนรถที่ใช้อยู่ บางครั้งอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด ที่เจ็บช้ำใจคือพอผมไปทวงเงินเขาต่อว่าเขาๆกับทักกลับมาว่า "โง่แล้วโง่อีกจะมาอะไรมากมายกับเขา" ตนเองไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากทนายคนดังให้ช่วยติดตามเงินที่ถูกหลแกลวงไปด้วย

ทางด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหายมาร้องเรียนถูกหลอกโอนเงินก่อนอื่นต้องตรวจสอบหลักฐานว่าเป็นการให้เงินโดยเสน่ห์หา หรือเป็นการฉ้อโกง แต่เบื้องต้นผู้เสียหายได้เข้าไปแจ้งความในพื้นที่ๆ สภ.เสาไห้แล้ว  ต้องมาตามต่อว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดำเนินคดีอย่างไร ตั้งเเต่ตนทำคดีมายอมรับเลยว่า พึ่งเคยเจอเป็นครั้งแรกที่ผู้เสียหายเสียเงิน 4 ล้านบาท ให้ทั้งที่ๆยังที่ไม่เคยแม้แต่จะเจอหน้ากันเลย คดีนี้ยอมรับว่าเหนื่อย เพราะมีประเด็นว่าให้เพราะเสน่ห์หาหรือให้ยืม หรือเป็นคดีฉ้อโกง การโอนแต่ละครั้งมี 1.3 ล้านคือมากสุด อาจจะเป็นประเด็นเรื่องฉ้อโกง ต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้ง อยากฝากเตือนเรื่องรักออนไลน์ถ้ามีการโอนเงินอยากให้เจอตัวกันก่อนและลองคบหาดูใจก่อน ก่อนที่จะโอนเงินไปให้กับเขา


เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline

ข่าวที่เกี่ยวข้อง