รีเซต

ไวรัสโคโรนา: สหราชอาณาจักรประเมินกรณีเลวร้ายสุดอาจมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 1 แสนคน ด้านอิตาลีเริ่มกักกันคน 16 ล้านคน

ไวรัสโคโรนา: สหราชอาณาจักรประเมินกรณีเลวร้ายสุดอาจมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 1 แสนคน ด้านอิตาลีเริ่มกักกันคน 16 ล้านคน
บีบีซี ไทย
8 มีนาคม 2563 ( 14:40 )
86
ไวรัสโคโรนา: สหราชอาณาจักรประเมินกรณีเลวร้ายสุดอาจมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 1 แสนคน ด้านอิตาลีเริ่มกักกันคน 16 ล้านคน
AFP
เที่ยวบินจากสนามบินในเมืองมิลานของอิตาลีดูเหมือนจะยังให้บริการอยู่ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการกักกันโรค

สื่ออังกฤษหลายแห่งรายงาน สหราชอาณาจักร 'เตรียมรับกรณีเลวร้ายที่สุด' ของการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วสหราชอาณาจักรมากถึง '100,000 คน' ด้านอิตาลีได้กักกันโรคในหลายจังหวัดทางตอนกลางและตอนเหนือของประเทศ ครอบคลุมประชากร 16 ล้านคน

สื่อหลายฉบับของอังกฤษต่างพากันพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการรับมือการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาลอังกฤษ โดยซันเดย์ ไทมส์ พาดหัวว่า "ทางการเตรียมเผชิญกรณีเลวร้ายที่สุด" โดยมีการอ้างแหล่งข่าวที่มีส่วนในการเตรียมแผนรับมือกล่าวว่า "ผู้เชี่ยวชาญหลายคน" เชื่อว่า อาจมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหราชอาณาจักร 100,000 คน โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า ทำเนียบนายกรัฐมนตรีปฏิเสธตัวเลขนี้

หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ รายงานว่า รัฐมนตรีกำลังพิจารณาเลื่อนการสอบ A-Level (นักเรียนระดับอายุ 16-18 ปี) และ GCSE (นักเรียนระดับอายุ 14-16 ปี) ออกไป และจะมี "การพิจารณาเป็นพิเศษ" ในการให้คะแนนนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และจะมีการปล่อยตัวนักโทษความเสี่ยงต่ำด้วย หากเจ้าหน้าที่เรือนจำมีจำนวนไม่เพียงพอ

นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ ได้กล่าวกับ สกาย (Sky) เกี่ยวกับรายงานของหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ เรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตกรณีเลวร้ายที่สุดว่า "เรากำลังพิจารณาสถานการณ์เลวร้ายที่สุดทางวิทยาศาสตร์ในขณะนี้ และเราได้ยินตัวเลขอีกหลายจำนวนในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า อาจมีประชากรถึง 80% ติดเชื้อ แม้ว่า ส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง ดังนั้น ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขกรณีเลวร้ายที่สุดอย่างมากจริง ๆ"

นางสเตอร์เจียน เน้นย้ำว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่ "การคาดการณ์" ว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ และระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสจะหายดีในเวลาอันรวดเร็ว เธอระบุว่า จำเป็นต้องสนับสนุนค่าใช้จ่ายของ บริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service--NHS) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในช่วงที่สหราชอาณาจักรพยายามจัดการกับไวรัสโคโรนา

เธอกล่าวถึงการจัดประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ที่จะจัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ในเดือน พ.ย. นี้ว่า การเตรียมการจัดการประชุมจะเดินหน้าต่อไป

ดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์ เรียกมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่า "รุนแรง" และเน้นย้ำว่า อาจมีการบังคับให้ศาลใช้โทรศัพท์และการเชื่อมต่อผ่านวิดีโอเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส นอกจากนี้ยังรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีกำลังพิจารณายกเลิกการควบคุมช่วงเวลาที่รถตู้ขนส่งสินค้าสามารถให้บริการได้ และลดข้อจำกัดจำนวนชั่วโมงการขับรถของคนขับเพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหาร

ส่วน ซันเดย์ มิร์เรอร์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐ 430,000 คน อาจจำเป็นต้องทำงานจากบ้าน ถ้าสหราชอาณาจักรเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า "การระบาดใหญ่"

อิตาลีกักกันคน 16 ล้านคน

อิตาลีกำลังพยายามสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ต้องกักกันโรคประชากรมากถึง 16 ล้านคน โดยผู้ใดก็ตามที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคลอมบาร์ดี และจังหวัดทางตอนเหนือและตอนกลางรวม 14 จังหวัด จำเป็นต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษในการเดินทาง โดยเมืองมิลานและเวนิสต่างก็ได้รับผลกระทบด้วย

นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี ประกาศด้วยว่า จะมีการปิดโรงเรียน ยิม พิพิธภัณฑ์ ไนต์คลับ และสถานที่อื่น ๆ ทั่วทั้งประเทศ

มาตรการนี้ถือว่าเป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นนอกประเทศจีน และจะบังคับใช้จนถึง 3 เม.ย. นี้

อิตาลี มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในยุโรป และมีรายงานผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวันเสาร์ มาตการการกักกันโรคที่เพิ่งออกมา จะส่งผลกระทบต่อประชากรอิตาลีราว 1 ใน 4 และพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตอนกลางและตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีความสำคัญในทางเศรษฐกิจ

BBC

ภายใต้มาตรการนี้ ผู้คนจะไม่สามารถเข้าออกภูมิภาคลอมบาร์ดี ซึ่งมีเมืองมิลานเป็นเมืองสำคัญได้

ข้อจำกัดเดียวกันนี้ยังบังคับใช้กับอีก 14 จังหวัด ได้แก่ โมดีนา, พาร์มา, เพียเชนซา, เรจโจ เอมีเลีย, ริมินี, เพซาโร และอูร์บิโน, อะเลสซานเดรีย, อัสตี, โนวารา, เวอร์บาโน กูซิโอ ออสโซลา, แวร์เชลลี, พาดูอา, เทรวีโซ และเวนิส

นายคอนเต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "จะมีไม่มีเดินทางเข้าออกพื้นที่เหล่านี้ หรือระหว่างภายในพื้นที่เหล่านี้ ถ้าไม่มีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เหตุฉุกเฉิน หรือเหตุผลด้านสุขภาพ"

"เรากำลังเผชิญกับเหตุฉุกเฉิน เหตุฉุกเฉินระดับประเทศ เราต้องจำกัดการแพร่ของไวรัสและป้องกันไม่ให้โรงพยาบาลต่าง ๆ มีคนไข้มากเกินไป"

แต่การขนส่งที่เข้าออกภูมิภาคที่ถูกกักกันโรคยังคงดำเนินต่อไป โดยพบว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่สนามบินมัลเพนซา (Malpensa) ในเมืองมิลาน ปรากฏว่า ยังมีเที่ยวบินอย่างน้อย 7 เที่ยวจากเมืองต่าง ๆ ในยุโรป เดินทางมาถึง

คนไทยเตรียมพร้อมเพราะรู้สึกถึงภัยใกล้ตัว

นางศศิธร ตอนตี คนไทยซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองคัตโตลิกา จังหวัดริมินี ในแคว้นเอมิเลียโร มันญา ของอิตาลี มา 28 ปี บอกบีบีซีไทยว่า การออกมาตรการปิดเมืองต่าง ๆ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกกังวลใจ เพราะเมืองที่อาศัยอยู่เป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดงที่ถูกสั่งปิดด้วย โดยทางการไม่อนุญาตให้เดินทางเข้า-ออก เมือง แต่ยังสามารถสัญจรไปมาในเมืองได้ ในเวลาเดียวกันหน่วยงานสาธารณสุขขอความร่วมมือไม่ให้ไปอยู่ในที่ชุมชนที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก

"มีการขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องออกไปซื้ออาหารและของใช้ให้ออกไปเพียงหนึ่งคน เราก็ตั้งรับเตรียมเสบียง ซื้อน้ำดื่ม กระดาษชำระ อาหารแห้ง เราต้องเตรียมพร้อมแล้วเพราะมันใกล้ตัวมาก "

นางศศิธร บอกอีกว่า พยายามหลีกเลี่ยงการออกไปในที่ชุมชน เพราะคนในอิตาลีไม่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส "เราเพิ่งกลับจากไทยมาก็ใส่หน้ากาก คนที่นี่ถามว่าไม่สบายทำไมไม่อยู่บ้าน เราบอกไปว่าใส่เพื่อป้องกันตัวเองและคนอื่นด้วย แต่คนอิตาลีไม่เข้าใจ ตอนนี้เลยหลีกเลี่ยงในที่ชุมชนคนเยอะ ๆ เพราะคนอิตาลีไม่เข้าใจว่าใส่หน้ากากทำไม"

นางศศิธร ซึ่งประกอบธุรกิจร้านขายจักรยานบอกอีกว่า เริ่มมีลูกค้าเข้าร้านน้อยลง เช่นเดียวกับร้านอาหารที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการถึงหกโมงเย็น ก็เชื่อว่าประสบปัญหาเช่นกัน


บทวิเคราะห์โดย มาร์ก โลว์เอิน ผู้สื่อข่าวประจำกรุงโรม

BBC

มีการพูดถึงกันอย่างมากว่า ในช่วงสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นช่วงเวลาสำคัญในการดูว่า การรับมือกับไวรัสโคโรนาของอิตาลีจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้หรือไม่ ถ้าจำนวนเริ่มลดลง ก็เป็นการบ่งบอกว่า มาตรการควบคุมได้ผล แต่ปรากฏว่า เหตุการณ์ไม่เป็นเช่นนั้น

ผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลจึงได้ขยับไปขั้นต่อไป และเป็นมาตรการที่ค่อนข้างแรง มันไม่ใช่การปิดเมืองอย่างสิ้นเชิง เครื่องบินและรถไฟยังคงให้บริการและการเข้าพื้นที่จะได้รับอนุญาตหากมีเหตุผลจำเป็นเกี่ยวกับการทำงาน หรือเหตุฉุกเฉิน โดยตำรวจจะสามารถเรียกและสอบถามเหตุผลจากผู้คนที่กำลังพยายามจะเดินทางเข้า-ออกเมืองในพื้นที่ถูกกักกันโรคได้

คำถามคือ มาตรการนี้สายเกินไปหรือไม่ เชื่อกันว่า ไวรัสแพร่กระจายอยู่ไปในอิตาลีนานหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะมีการตรวจพบ และขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งใน 22 ภูมิภาคของประเทศ รัฐบาลกำลังใช้มาตรการควบคุมพื้นที่ที่กว้างขวางมากที่สุดนอกประเทศจีน แต่นี่คือ กรณีที่เรียกว่า วัวหายล้อมคอกหรือไม่


รายละเอียดของข้อจำกัดใหม่มีอะไรบ้าง

ระงับการจัดงานแต่งงานและงานศพ รวมถึงกิจกรรมทางด้านวัฒนธรมและศาสนาทุกอย่าง ปิดโรงภาพยนตร์, ไนต์คลับ, ยิม, สระว่ายน้ำ, พิพิธภัณฑ์ และรีสอร์ตสกีทุกแห่ง

ร้านอาหารและร้านกาแฟในเขตที่ถูกกักกันโรค สามารถเปิดให้บริการได้ระหว่าง 6.00-18.00 น. แต่ลูกค้าต้องนั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

ผู้คนได้รับคำแนะนำให้อยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้ที่ฝ่าฝืนการกักกันโรคอาจถูกจำคุกนาน 3 เดือน

https://twitter.com/DrTedros/status/1236605595282812928

นายเทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (World Health Organization--WHO) ชมเชยอิตาลีว่า "เสียสละอย่างแท้จริง" ในการใช้มาตรการดังกล่าว จนถึงตอนนี้ มีประชาชนในทางตอนเหนือของอิตาลีเพียง 50,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากการกักกันโรค

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลประกาศปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศนาน 10 วัน

Getty Images
ผู้คนต่อแถวซื้ออาหารในเมืองมิลาน ขณะที่มีประกาศมาตรการการกักกันโรค

สถานการณ์ในที่อื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง

WHO ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 102,000 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,500 คน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา

แต่ในจีนมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียวเมื่อวันอาทิตย์ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นการบ่งชี้ว่า การแพร่กระจายของไวรัสกำลังลดลง

มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันเสาร์ 40 ราย น้อยกว่าตัวเลขที่มีรายงานเข้ามาเมื่อวันศุกร์กว่าครึ่ง ขณะที่รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่อยู่ที่ 27 คน ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน และทุกคนอยู่ในอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองที่เริ่มมีการระบาดครั้งแรก

อิหร่าน หนึ่งในประเทศที่มีการระบาดมากที่สุดนอกประเทศจีน ยืนยันผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 6,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 145 คน

Getty Images
มีการแจกข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาให้แก่ผู้โดยสารที่กลับมาจากอิหร่าน

ความคืบหน้าอื่น ๆ :

  • โรงแรมแห่งหนึ่งที่ถูกใช้กักกันโรคเพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนาในเมืองฉวนโจวของจีน พังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน
  • สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถ่ายทอดสดการสวดอ้อนวอนพระเจ้าประจำวันอาทิตย์เป็นครั้งแรกของพระองค์ เพื่อหลีกเลี่ยงกับเข้าใกล้กับผู้คนที่มารวมตัวกันจำนวนมาก พระองค์ตรัสว่า "การสวดทำให้พระองค์ใกล้ชิด" กับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากการระบาด
  • ในสหรัฐฯ เรือสำราญลำหนึ่งพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 3,533 คน ที่ถูกควบคุมอยู่นอกชายฝั่งใกล้กับนครซานฟรานซิสโก หลังจากมีผู้ถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 21 คน ถูกย้ายไปยังท่าเรือเมืองโอ๊กแลนด์ที่อยู่ใกล้เคียง
  • มีการยืนยันการติดเชื้อไวรัสนี้ของบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมทางการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ ขึ้นพูดในงานนี้

เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันก่อนหน้าที่ 367 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมในประเทศเพิ่มเป็น 7,134 คน

ในสหรัฐฯ มีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 400 คน และยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 19 คน

ในนครนิวยอร์ก ผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจาก 44 คนเมื่อวันศุกร์เป็น 76 คน นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว

พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาคนแรกในอเมริกาใต้ เป็นชายวัย 64 ปีในอาร์เจนตินา

ส่วนในออสเตรเลีย ชายในวัยกว่า 80 ปี กลายเป็นคนที่ 3 ที่เสียชีวิตจากไวรัสนี้

ประเทศอื่น ๆ ที่มีรายงานยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้แก่ ฝรั่งเศส (949 คน) เยอรมนี (795 คน) สเปน (441 คน) สหราชอาณาจักร (209 คน) และเนเธอร์แลนด์ (188 คน)

โคลอมเบีย, บัลแกเรีย, คอสตาริกา, มอลตา, มัลดีฟส์ และปารากวัย ต่างรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ

BBC

คุณอาจสนใจชม:

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง