รีเซต

"เดียร์"ปัดชิ่งพปชร.ซบปชป. ยันเคารพบิ๊กป้อมเหมือนเดิม ลั่นไร้ปัญหาครองสื่อ เคลียร์จบแล้ว

"เดียร์"ปัดชิ่งพปชร.ซบปชป. ยันเคารพบิ๊กป้อมเหมือนเดิม ลั่นไร้ปัญหาครองสื่อ เคลียร์จบแล้ว
มติชน
22 กันยายน 2565 ( 12:38 )
66

22 กันยายน เวลา 10.30 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา บุนนาค ให้สัมภาษณ์หลังเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ว่า การเข้ามาพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ตนต้องการจะนำแนวคิดนโยบายเข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศหลายด้าน ดังนั้นตนขอลงสมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เพื่อจะได้มีเวลาโฟกัสขับเคลื่อนนโยบายอย่างเต็มที่ แต่ขึ้นอยู่กับพรรคที่จะพิจารณาให้ลงสมัครส.ส.แบบไหนจึงจะเหมาะสม

 

เมื่อถามว่า ใช้เวลาตัดสินใจนานแค่ไหนที่เข้ามาเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนใช้เวลาตัดสินใจประมาณ 1 เดือน เพราะตนลาออกจากพรรคพลังประชารัฐอย่างกะทันหัน ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ ที่เปิดโอกาสให้ตนเข้าไปพูดคุยและตอบข้อซักถาม เพราะการร่วมทำงานกับพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง สิ่งที่ทำให้ต้องตัดสินใจคือการจะขับเคลื่อนงานการเมืองจะต้องกัดกระดุมเม็ดแรกเสียก่อน คือต้องดูว่าพรรคนั้นมีสัญลักษณ์ของความเป็นประชาธิปไตยภายในพรรคหรือไม่

 

“เดียร์หวังว่า การทำงานกับพรรคประชาธิปัตย์ที่มีประสบการณ์ยาวนานมากว่า 76 ปี จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยนำประสบการณ์มาช่วยสอนให้เดียร์ และในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้าไปช่วยต่อเติมช่องว่างระหว่างรุ่น ที่ทุกวันนี้เราเห็นปัญหาหลายอย่าง แต่ยังไม่ทราบว่าพรรคฯจะมอบภารกิจอะไรให้ ”น.ส.วทันยา กล่าว

 

เมื่อถามว่า จะมีส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ตามมาอยู่ด้วยหรืออไม่ น.สงวทันยา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน คงต้องขอให้เป็นการตัดสนใจของเพื่อนส.ส.ตนเชื่อว่าทุกคนมีวิจารณาญาณของตนเองในการที่จะไปอยู่พรรคไหน

 

ต่อข้อถามว่า การย้ายจากพรรคพลังประชารัฐมาประชาธิปัตย์ มีความแตกต่างกันอย่างไร น.ส.วทันยา กล่าวว่า สิ่งที่แตกต่างกันคือพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคที่เพิ่มก่อตั้งขึ้นมาในการเลือกตั้งปี 62 ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ก่อตั้งตั้งแตปี 2489 มาถึงวันนี้76 ปีแล้ว สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ ต่อหน้าประชาชนให้เห็นถึงความเป็นสถาบันพรรคการเมืองที่เป็นตัวแทนและพึ่งพาของประชาชน เติบโตขึ้นมาพร้อมกับคนทุกยุคทุกสมัย ตนหวังว่าจะได้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสานกับต่อในฐานะที่เป็นคนรุ่นใหม่ ส่วนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐนั้นตนก็ยังให้ความเคารพนับถือเช่นเดิม ไม่มีปัญหาอะไรติดใจ แต่การทำงานก็อาจจะต้องมีการเปลี่ยนสภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่ในแง่ของมิตรภาพเป็นคนละเรื่องกับบริบทและการทำงาน

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรที่มีการจับตาเรื่องสื่อของครอบครัว น.ส.วทันยา กล่าวว่า ตนไม่ได้กังวลเพราะการถือหุ้นในสื่อมวลชน ตนและครอบครัวได้เคลียร์ให้ชัดเจนไปแล้ว และได้ปฎิบัติตามกฎหมายทุกอย่าง ตั้งแต่ก่อนวันแรกที่เข้ามาสมัครในพรรคพลังประชารัฐ

 

เมื่อถามว่าที่บอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเจ้าของ หมายความว่าพรรคพลังประชารัฐ มีฝ่ายที่พยายามจะผูกขาดอำนาจใช่หรือไม่ น.ส.วทันยา กล่าวว่า ไม่ใช่แบบนั้น และไม่พาดพิงถึงพรรคการเมืองอื่น ตนถือว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการทำหน้าที่ฐานะนักการเมือง เมื่อมีโอกาสก้าวเข้ามาแช้ว ก็พยายามตัดสินใจด้วยความรอบครอบ บนหลักของเหตุและผลที่ดีที่สุด จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ตนเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ที่พรรคฯได้พิสูจน์ไม่มีอำนาจผูกขาด ไม่มีความเป็นเจ้าของ และที่สำคัญสมาชิกพรรคฯทุกคนมีสิทธิ์และเสียงเท่ากันและเคารพในความเห็นส่วนใหญ่เมื่อมีการโหวตเรื่องใดๆ ก็มีการเคารพมติพรรค

 

ด้านนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคฯรับ น.ส.วทันยาในมาลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส่วนจะอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ เป็นหน้าที่ของกรรมการบริการพรรคฯจะพิจารณาต่อไป ส่วนภารกิจที่จะมอบหมายให้เบื้องต้น น.ส.วทัยยาจะเป็นกำลังสำคัญให้กับพรรคในพื้นที่ กทม.โดยมีภารกิจหลักร่วมมกับนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคดูแลกทม.และนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หัวหน้าทีมการศึกษา พรรคฯ

 

“เราทำงานเป็นทีม โดยนายองอาจ ยังคงเป็นหน้าหน้าทีมหาเสียงในกทม.ร่วมกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค และผอ.เลือกตั้งพรรคฯ ที่ต้องรับผิดชอบสนาม กทม. มี ดร.เอ้ เป็นกำลังสำคัญอีกคน ยิ่งได้คนรุ่นใหม่อย่างมาดามเดียร์ มาร่วมด้วย ก็ทำให้การขับเคลื่อนในกทม.แข็งแกร่งและมีพลังขึ้น พวกเราทุกคนจะจับมือกันทำงาน โดยผมจะเป็นหลักให้อีกคน ในการทำงานเราประสบควาามสำเร็จยิ่งขึ้นในการเลือกตั้งในพื้นที่กทม. “นายจุรินทร์ กล่าว

 

เมื่อถามว่า การปรับทีมครั้งนี้จะทำให้ส.ส.กทม.อยู่ในมือประชาธิปัตย์อีกหรือไม่ และมีการตั้งเป้าไว้อย่างไร หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับประชาชน แต่จากการลงสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นที่ผ่านมา ทั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก.ก็พิสูจน์ว่า คน กทม.ตอบรับพรรคประชาธิปัตย์ดีขึ้น และยังยินดีต้อนรับเรา เมื่อได้ทีมคนรุ่นใหม่เข้ามาและร่วมประสานกับทุกคนในพรรค ตนมั่นใจว่าเราจะได้เสียงตอบรับมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง