รีเซต

“อนุทิน” เดือดพวกเห็นแก่ตัว ลอบเข้าประเทศ ทำติดโควิด เตรียมงัดกม.ทุกฉบับจัดงาน

“อนุทิน” เดือดพวกเห็นแก่ตัว ลอบเข้าประเทศ ทำติดโควิด เตรียมงัดกม.ทุกฉบับจัดงาน
ข่าวสด
1 ธันวาคม 2563 ( 11:00 )
170
“อนุทิน” เดือดพวกเห็นแก่ตัว ลอบเข้าประเทศ ทำติดโควิด เตรียมงัดกม.ทุกฉบับจัดงาน

“อนุทิน” เดือด โวยพวกเห็นแก่ตัว ลักลอบเข้าประเทศ ทำติดโควิด เตรียมงัดกฎหมายทุกฉบับจัดงาน แนะจนท.เข้มช่องทางธรรมชาติ วอนปชช.อย่าตระหนก เชื่อไม่กระทบฤดูท่องเที่ยว


เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 1 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ว่า ขณะนี้เรารมีการตรวจซ้ำ เพื่อขยายผลให้มากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้ไม่ควรเกิดขึ้น เป็นความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน ที่ทำความเดือดร้อนให้กับประชาชนคนไทยอื่นๆอีกมากมาย เนื่องจากเรามีการประกาศไม่รู้ต่อกี่ครั้งแล้ว ว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ

 

แต่ปรากฎว่ามีถึง 2-3 ราย หรือมากกว่ายังเดินทางเข้าออกเป็นว่าเล่นผ่านช่องทางธรรมชาติ ซึ่งถือว่าผิดกฎหมาย และตนได้สั่งการไปที่สาธารณสุขจังหวัดให้ดำเนินการดำเนินคดีให้แรงที่สุด เพราะเป็นสิ่งที่ทำร้ายบ้านเมือง ไม่ควรสงสาร หรือให้ความชื่นชม คนที่ทำความเดือดร้อน ทั้งที่เรากำลังจะเปิดประเทศ แต่ต้องมาทบทวนวิธีการผ่อนคลายใหม่

 

เมื่อถามว่า จะมีการจัดรถชีวนิรภัยพระราชทาน ไปตรวจในพื้นที่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรามีกาส่งไปตลอด แต่เพราะความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน ต้องทำให้เราเสียงบประมาณเพิ่มขึ้นมากมาย ทั้งที่ในความจริงหากกลับมาก็ควรกักตัว แต่กลับไปเที่ยวห้าง กินหมูกะทะ ไปหลับนอนอะไรเยอะแยะไปหมด และพอป่วยแล้วก็ไม่กล้าบอกความจริง

 

 
 
ตนขอชื่นชมตำรวจ และฝ่ายปกครอง ที่ไปตรวจสอบจากโทรศัพท์ถึงจะทราบว่าบุคคลดังกล่าว เดินทางไปที่ไหนมาบ้าง ตนอยากบอกว่าบุคคลดังกล่าวนั้นแย่ ส่วนการดำเนินคดีนั้น จะใช้ทุกมาตรา อาทิ ลักลอบเข้าเมือง ผิดพ.ร.บ.โรคติดต่อ ไม่ปฏิบัติตามกฎการกักตัว 14 วัน แม้กระทั่งโรงแรมที่ให้พักอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายด้วย
 
 
เพราะตามปกติหากมีคนแปลกๆเข้ามาพักต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่รับทราบ โดยทางสาธารณสุขจังหวัด จะเป็นผู้นำเรื่องแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นเจ้าภาพในการแจ้งความ ร้องทุกข์ ดำเนินคดี หรือหากมีช่องทางให้กระทรวงสาธารสุขสามารถดำเนินคดีได้ ก็จะดำเนินการเอง
 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ขยายผลตรวจสอบบุคคลใกล้ชิดไปบ้างแล้ว ซึ่งผลส่วนใหญ่ออกมาเป็นลบ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือบุคคลที่สัมผัสผู้ติดเชื้อทั้ง 3 คนนี้ ให้มาหาเรา อย่าให้เราต้องไปตาม เพื่อที่จะได้ตรวจหาเชื้อ และสร้างความมั่นใจให้กับสังคม โดยขณะนี้เราทำงานตรวจเชิงรุกอย่างเต็มที่

 

"เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เราต้องสูญเสียทรัพยากรมากมายมหาศาล ที่ต้องไปทำให้สถานการณ์เรียบร้อย ทั้งที่เกิดจากการกระทำของคนเห็นแก่ตัวไม่กี่คน"

 

เมื่อถามว่า หากมีการตรวจสอบพบผู้ป่วยเพิ่ม จำเป็นต้องปิดจังหวัดเชียงใหม่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่า เราควรไปตรวจสอบที่ช่องทางธรรมชาติ ตะเข็บชายแดนต่างๆ เพราะตามด่านนั้นไม่มีปัญหา และไม่มีทางหลุดรอดได้แน่นอน เหมือนกับที่สุวรรณภูมิ และดอนเมือง ที่ไม่มีการหลุดออกไปเลย แต่กรณีที่ลักลอบเข้ามาผ่านป่า ผ่านห้วย ลำคลอง เข้ามาทำไม่ได้ และไม่ควรทำ เป็นเรื่องของจิตสำนึก

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไร เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูท่องเที่ยว นายอนุทิน กล่าวว่า เอาเป็นว่าขอให้ใส่หน้ากากอนามัย อย่าไปตกใจกับสิ่งเหล่านี้ เพราะสถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับตอนที่ระบาดใหม่ๆ วันนี้เราเข้าใจสถานการณ์ของโรคเป็นอย่างดี การตรวจสอบ ป้องกัน และควบคุมเราทำได้ดี และที่สำคัญเรามียา เวชภัณฑ์พร้อม และโดยปกติถ้าเรามีสุขภาพแข็งแรงโรคนี้ก็ทำอะไรเราไม่ได้

 

ดังนั้น อย่ากังวลจนเกินเหตุ โดยสรุปคือขณะนี้เรามีความพร้อมเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมาเราคาดการณ์กันไว้แล้ว แต่ไม่คิดว่าจะเกิดกับคนไทยด้วยกันเอง แต่ไม่เป็นไร เรื่องชีวิตและสุขภาพเราต้องดูแลกันทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง