วิจัยพบ 'โควิด-19' เพิ่มความเสี่ยง 'โรคหลอดเลือดสมอง'
เยรูซาเล็ม, 30 เม.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันพฤหัสบดี (29 เม.ย.) มหาวิทยาลัยฮีบรูแห่งเยรูซาเล็ม (HUJI) เปิดเผยผลการศึกษาระหว่างประเทศฉบับใหม่ ซึ่งบ่งชี้ว่าโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองหรือสโตรก (Stroke) ได้
การศึกษาแบบครอบคลุม ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารโรคหลอดเลือดสมอง จัดทำโดยคณะนักวิจัย 114 คน จาก 22 ประเทศ ผ่านการตรวจสอบข้อมูลจากศูนย์การแพทย์ 136 แห่ง ใน 32 ประเทศ โดยนักวิจัยพบอุบัติการณ์ของโรคหลอดเลือดสมองเพิ่มขึ้นในผู้ป่วยอายุน้อยอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ป่วยอายุใกล้เคียงกันในช่วงก่อนโรคโควิด-19 อุบัติขึ้น
โรงพยาบาลที่เข้าร่วมการศึกษารายงานการตรวจพบผู้ป่วยทั้งหมด 432 ราย มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก หลังจากพวกเขาเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคหลอดเลือดสมองและภาวะร้ายแรงอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสมอง
ผู้ป่วยกลุ่มสำรวจข้างต้นแบ่งเป็นผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากสมองขาดเลือดเฉียบพลัน 323 ราย (ร้อยละ 74.8) ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกในสมอง 91 ราย (ร้อยละ 21.1) และผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดดำในสมองอุดตัน 18 ราย (ร้อยละ 4.2)
มหาวิทยาลัยฯ พบว่าปัญหาที่น่าหนักใจที่สุดคือกลุ่มผู้ป่วยอายุน้อยมีโอกาสสูงในการเกิดโรคหลอดเลือดสมองที่เกิดจากสมองขาดเลือดโดยไม่ทราบถึงปัจจัยเสี่ยงแบบทั่วไปที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดสมอง อาทิ โรคที่เกี่ยวกับเส้นเลือดอย่างความดันโลหิตสูง เบาหวาน หรือการสูบบุหรี่
"การศึกษานี้จะเป็นเครื่องมือช่วยสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความเชื่อมโยงระหว่างโรคโควิด-19 และโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงให้ประโยชน์ในการรักษาผู้ป่วยโดยตรง" มหาวิทยาลัยฯ กล่าวสรุป