ส.อ.ท.รอดูฤทธิ์โอมิครอนหลัง 15 ม.ค. เอกชนเวิร์ก ฟรอม โฮมอีก 1-3 เดือน
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้ภาคเอกชนกำลังติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยว่าจะขยายวงกว้างขนาดไหนหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังกระทรวงสาธารณสุขประเมินระดับ 3 โดยจะติดตามสถานการณ์ถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 เพราะพ้นระยะเวลา 14 วันในการเพาะเชื้อ ทั้งนี้สิ่งที่เอกชนกังวลคือ โอมิครอน แม้จะรุนแรงเพียง 30% เมื่อเทียบกับเดลต้า แต่ติดได้ง่ายกว่ามาก หากป่วยถึง 1 แสนคนเท่ากับประเทศอังกฤษ ซึ่งมีประชากรเท่ากับไทย จำนวนนี้นอนโรงพยาบาล 3 หมื่นคน อาจทำให้ระบบสุขภาพของไทยเจอวิกฤตได้
นายเกรียงไกรกล่าวว่า เบื้องต้นผลจากโอมิครอน ส่งผลให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่เดิมวางแผนจะปลดล็อกการทำงานที่บ้าน(เวิร์ก ฟรอม โฮม) และกลับมาทำงานที่ออฟฟิศตามปกติต้องชะลอแผนออกไปก่อน 1-3 เดือน รวมไปถึงธุรกิจบางส่วนที่อาศัยแรงซื้อในประเทศต้องรอประเมินสถานการณ์ ต้องทบทวนแผนการตลาดและการลงทุนอีกครั้ง
นายเกรียงไกรกล่าวว่า สิ่งที่น่ากังวลคือ ภาคการส่งออกและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง แม้จะขยายตัวในช่วงที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันโอมิครอนระบาดทั่วโลก พบผู้ติดเชื้อได้รับการยืนยัน 114 ประเทศและเขตปกครอง โดยเฉพาะยุโรปและสหรัฐอเมริกา เพราะถือเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย หากการแพร่ระบาดรุนแรงและนำไปสู่การล็อกดาวน์ อาจทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ จนกระทบต่อการส่งออก อาจซ้ำเติมเศรษฐกิจไทยปี 2565 ได้
“ปีหน้า ภาครัฐบาลจำเป็นต้องเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นกำลังซื้อ อาทิ มาตรการคนละครึ่งเฟส 4 ช้อปดีมีคืน และควรมีมาตรการเพิ่มเติมให้กับภาคท่องเที่ยว บริการ โรงแรม เนื่องจากกลุ่มเหล่านี้กำลังได้รับผลกระทบซ้ำๆ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายย่อย ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก” นายเกรียงไกรกล่าว