โลกร้อนทำฉลามออสซี่ดุ ปีนี้กัดคนตายรุนแรงที่สุดในรอบ 88 ปี
วันนี้ ( 19 ต.ค. 63 )เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุฉลามโจมตีนักเซิร์ฟคนหนึ่ง จนตกลงสู่ทะเล ซึ่งสามารถจับภาพมุมสูงเอาไว้ได้ขณะที่เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปช่วยเหลือ แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่พบศพของชายคนดังกล่าว นี่คือผู้เคราะห์ร้ายรายล่าสุดของปีนี้ ซึ่งนับเป็นศพรายที่ 7 ของปี ที่ถูกฉลามบริเวณชายฝั่งของประเทศออสเตรเลีย
กรณีนักเซิร์ฟ หรือนักท่องเที่ยถูกฉลามกัดไม่ใช่เรื่องใหม่ และเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศออสเตรเลีย แต่ปีนี้กลับมีความแตกต่าง หลังจากที่ปีที่แล้ว ไม่มีเหตุฉลามกัดคนจนเสียชีวิต แต่ในปีนี้ ตัวเลขกลับพุ่งขึ้นมาถึง 7 คน ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา สูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1934 หรือ 88 ปีมาแล้ว ขณะที่สถิติที่พบผู้เสียชีวิตจากฉลามมากสุดคือเมื่อปี 1929 คือ 9 ราย
จากข้อมูลของคณะวิทยาศาสตร์ความหลากหลายทางชีวภาพของมหาวิทยาลัยแมคควารี (Macquarie) ระบุว่า ค่าเฉลี่ยผู้ถูกฉลามกัดเสียชีวิตคือปีละ 1 คน แต่ปีนี้ 7 คน ถือว่ามากจนน่าตกใจ
นอกจากนี้ยังพบว่า มีเหตุการณ์ฉลามโจมตี 21 เหตุการณ์แล้วตั้งแต่ต้นปี ซึ่งใกล้เคียงกับปีก่อน ๆ
ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่า เหตุใดปีนี้จึงมีผู้เสียชีวิตมาก แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนชี้ว่า เกิดจากหลายปัจจัย ทั้งอาจเกิดจากความโชคร้าย หรืออาจเกิดจาก “โลกร้อน” ได้ด้วย
เมื่ออุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ระบบนิเวศทั้งหมดก็ถูกทำลาย และเปลี่ยนแปลงไป ปลาต้องอพยพมากอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พฤติกรรมของสัตว์แต่ละสายพันธุ์เปลี่ยนไป และโลกใต้ทะเลที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งพบว่าฉลามมักจะว่ายเข้ามาใกล้ชายฝั่ง ใกล้ตัวมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ไม่เพียงแค่เรื่องใต้น้ำ แต่พบว่าบนแผ่นดินของออสเตรเลียยังมีเหตุไฟป่า, คลื่นความร้อน และภัยแล้งที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์อีกด้วย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
TIKTOK : @tnnonline