สเปนเผชิญ 'ไฟป่า' ครั้งเลวร้ายสุดในประวัติศาสตร์
มาดริด, 21 มิ.ย. (ซินหัว) -- เมื่อวันจันทร์ (20 มิ.ย.) จังหวัดซาโมราทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน ยืนยันว่าไฟป่าจากฟ้าผ่าในพื้นที่เมื่อวันพุธ (15 มิ.ย.) กลายเป็นไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สเปน
ไฟป่าในเขตอนุรักษ์ธรรมชาติเซียร์รา เด ลา คูเลบรา ลุกลามยิ่งขึ้นด้วยอุณหภูมิสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส และลมกระโชกแรงถึง 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยปัจจุบันไฟป่าเผาทำลายพื้นที่ป่าไม้และป่าละเมาะ 30,800 เฮกตาร์ (ราว 192,500 ไร่) ซึ่งคิดเป็นแนวยาว 120.88 กิโลเมตรรายงานระบุว่าไฟป่าครั้งเลวร้ายที่สุดก่อนหน้านี้คือที่ภูมิภาคอวยลวาทางตะวันตกเฉียงใต้ของสเปน ซึ่งทำลายพื้นที่ 29,687 เฮกตาร์ (ราว 185,544 ไร่) ในปี 2004 และที่เมืองคอร์เตส เด ปัลลัสทางตะวันออก ซึ่งทำลายพื้นที่ 28,879 เฮกตาร์ (ราว 180,494 ไร่) ในปี 2012ทั้งนี้ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติเซียร์รา เด ลา คูเลบรา มีความสำคัญทางสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีหมาป่าอยู่หนาแน่นที่สุดในคาบสมุทรไอบีเรีย พร้อมด้วยประชากรกวางแดงและกวางโรที่สำคัญสภาพอากาศที่เย็นขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (19 มิ.ย.) เอื้ออำนวยประโยชน์แก่ทีมนักดับเพลิง ซึ่งปัจจุบันสามารถดับเปลวไฟได้แล้ว โดยนักดับเพลิงหลายร้อยคน พร้อมด้วยสมาชิกหน่วยฉุกเฉินทางทหารของสเปน กำลังทำงานเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในพื้นที่ไฟป่าและสร้างแนวกันไฟทั้งนี้ 13 เมืองในภูมิภาคนาบาร์ราทางตอนเหนือของสเปนต้องอพยพผู้คน เนื่องจากเกิดไฟป่าหลายครั้ง ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นระบุว่า "เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษ"