ไต้ฝุ่น "คัลแมกี" ถล่มฟิลิปปินส์เสียชีวิตพุ่ง

ภาพมุมสูงแสดงให้เห็นน้ำท่วมขยายวงกว้าง ในพื้นที่ภาคกลางของฟิลิปปินส์ หลังถูกพายุไต้ฝุ่นคัลแมกีขึ้นฝั่งพัดถล่ม ได้รับความเสียหายหนัก โดยหลายเมืองบนเกาะเซบูถูกน้ำท่วม ขณะที่ รถยนต์ รถบรรทุก แม้แต่ตู้คอนเทนเนอร์ขนาดใหญ่ก็ถูกกระแสน้ำพัดพาไป
เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ เปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุพัดถล่มเพิ่มขึ้นเป็น 46 รายแล้ว โดยเฉพาะในจังหวัดเซบู มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 21 ราย ทั้งนี้ก่อนพายุจะพัดขึ้นฝั่งพื้นที่รอบเมืองเซบู ซิตี เมืองเอกของจังหวัดเซบู มีปริมาณน้ำฝนสะสมถึง 183 มิลลิเมตร ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยรายเดือนที่ 131 มิลลิเมตร
ด้านพาเมลา บาริกัวโทร ผู้ว่าราชการจังหวัดเซบู บอกว่า สถานการณ์ในเซบูไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราเคยคิดว่ากระแสลมจะทำอันตรายที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้ประชาชนของเราตกอยู่ในความเสี่ยงจริง ๆ คือ "น้ำ" โดยน้ำท่วมครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล
เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลของจังหวัดเซบู ให้สัมภาษณ์ว่า ประชาชนจำนวนมากถูกบีบให้ต้องอพยพออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้ภาพรวมในขณะนี้มีประชาชนเกือบ 400,000 คน ถูกอพยพออกจากเส้นทางของพายุ
ก่อนหน้านี้ในช่วงบ่ายวันอังคาร กองทัพฟิลิปปินส์ยืนยันว่า เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ ซึ่งมีลูกเรือ 5 นาย ถูกส่งออกไปช่วยภารกิจบรรเทาทุกข์ แต่ได้ตกลงบนเกาะมินดาเนา ทางตอนเหนือของประเทศ แต่ประสบอุบัติเหตุระหว่างบินไปยังเมืองชายฝั่งบูตูอัน เพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาและกู้ภัยในพื้นที่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตก
ทั้งนี้พายุไต้ฝุ่นคัลแมกี กำลังเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกผ่านหมู่เกาะวิซายัน โดยมีความเร็วลมคงที่ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีลมกระโชกแรงสูงสุดถึง 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ต้นไม้หักโค่นและสายไฟฟ้าขาดเป็นบริเวณกว้าง
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่า พายุมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ มหาสมุทรที่อุ่นขึ้นทำให้พายุไต้ฝุ่นมีกำลังแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว และบรรยากาศที่อบอุ่นกว่าสามารถกักเก็บความชื้นได้มากขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักยิ่งกว่าเดิม
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
