รีเซต

"เอมมานูเอล มาครง" ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส สมัยที่ 2

"เอมมานูเอล มาครง" ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส สมัยที่ 2
TNN ช่อง16
25 เมษายน 2565 ( 07:14 )
123

วันนี้ (25 เม.ย.65) ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศสรอบสองตัดสินที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา "ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง" นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยมและสนับสนุนสหภาพยุโรปหรืออียู วัย 44 ปี ชนะเลือกตั้งเหนือ "นางมารีน เลอ เปน" คู่แข่งจากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด ที่ประกาศนโยบายต่อต้านสหภาพยุโรป หรือ อียู และต่อต้านผู้อพยพ วัย 53 ปี

 

ผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ "มาครง" ได้คะแนนเสียงร้อยละ 58 ส่วน "เลอ เปน" ได้ คะแนนเสียงร้อยละ 42 แม้ช่องว่างของคะแนนเลือกตั้งที่ชนะกัน ไม่ทิ้งห่างมากเท่ากับเมื่อครั้งการเลือกตั้งเมื่อปี 2560 แต่ก็ทำให้นายมาครง สร้างประวัติศาสตร์ เป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนแรกที่ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเป็นสมัยที่2 ในรอบ 20ปี 

 

นายมาครงพร้อมบริจิต มาครง สตรีหมายเลข 1 เดินทางมาถึงเวทีที่จัดตั้งขึ้นที่ลานหน้าหอไอเฟล แลนด์มาร์ก สัญลักษณ์สำคัญของฝรั่งเศส ในกรุงปารีส เพื่อแถลงต่อกลุ่มผู้สนับสนุนตามที่ประกาศไว้ช่วงวันเลือกตั้ง  

 

ก่อนขึ้นเวทีทักทายและแถลงขอบคุณกลุ่มผู้สนับสนุน และ ชาวฝรั่งเศส  ตลอดเวลา 5 ปี เกิดความเปลี่ยนแปลงมากมายทั้งด้านดีและยากลำบากรวมทั้งวิกฤติการณ์ที่ไม่ธรรมดา แต่วันนี้เสียงส่วนใหญ่ตัดสินใจเลือกที่จะเชื่อมั่นในตัวเขาให้บริหารประเทศฝรั่งเศสต่อไปอีก 5 ปี ประกาศจะเป็นประธานาธิบดีของชาวฝรั่งเศสทุกคน ไม่มีค่ายหรือแบ่งฝ่าย ไม่เว้นแม้แต่คนที่เลือก มารีน เลอ เปน นักการเมืองฝ่ายขวาจัด 

 

ขณะที่ นางบริจิต ให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ช่องหนึ่ง รับรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่นายมาครงชนะเลือกตั้งอีกสมัย รู้สึกมีความสุขและเชื่อมั่นในนายมาครง ผู้เป็นสามี ที่สร้างประวัติศาสตร์ มาครง มีเป้าหมายอันแรงกล้าที่จะทำทุกอย่างเพื่อฝรั่งเศส

 

ด้าน มารีน เลอ เปน ผู้สมัครฝ่ายขวาจัด วัย 53 ปี ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสครั้งนี้นับเป็นรอบที่ 3 กล่าวยอมรับความพ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีของฝรั่งเศส รอบสองรอบตัดสิน 

 

แต่เมื่อดูผลเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่เธอได้คะแนนเกือบร้อยละ 42 หมายถึงว่าแนวคิดฝ่ายขวาจัดที่ต่อต้านสหภาพยุโรป หรือ อียู และต่อต้านผู้อพยพ เริ่มมีฐานรากค่อนข้างมั่นคงและสามารถต่อยอดไปในอนาคตได้ 

 

จึงถือเป็นชัยชนะและจะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป และจะไม่ทิ้งชาวฝรั่งเศสไปไหน เกมยังไม่จบ เพราะในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้า ยังจะมีเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนฯ ขอให้สนับสนุนพรรคของเธอต่อไป

 

เหล่าผู้นำยุโรปและอียู รวมทั้งนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันแห่งอังกฤษ และ นางอูร์ซูลา วอน เดอร์ เลเยน ประธานกรรมาธิการยุโรป ต่างทวีตข้อความแสดงความยินดีต่อชัยชนะเลือกตั้งของนายมาครง ผ่านทวิตเตอร์ และตั้งตารอทำงานร่วมกันต่อไป.

 

 

ภาพจาก Reuters

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง