รีเซต

ขู่อีกรอบ “ทรัมป์” ย้ำเตรียมขึ้นภาษี "เซมิคอนดักเตอร์" บีบย้ายโรงงาน ลงทุนในสหรัฐอเมริกา

ขู่อีกรอบ “ทรัมป์” ย้ำเตรียมขึ้นภาษี "เซมิคอนดักเตอร์" บีบย้ายโรงงาน ลงทุนในสหรัฐอเมริกา
TNN ช่อง16
5 กันยายน 2568 ( 14:34 )
5

“ทรัมป์” ขู่ขึ้นภาษี "เซมิคอนดักเตอร์" ย้ำต้องลงทุนตั้งโรงงานหรือมีแผนเข้ามา จะได้รับการยกเว้น 


สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่า รัฐบาลสหรัฐฯจะเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์จากบริษัทที่ไม่ย้ายฐานการผลิตมายังสหรัฐฯ โดยเป็นการให้สัมภาษณ์ก่อนจะเข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำกับซีอีโอบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ 


ทรัมป์กล่าวว่า ตนเองได้หารือกับคนที่นี่แล้ว  สหรัฐฯจะเก็บภาษีชิปและเซมิคอนดักเตอร์ กับบริษัทที่ไม่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศ โดยจะเริ่มเก็บภาษีในอีกไม่นานนี้ แต่ไม่ได้ระบุช่วงเวลาแน่ชัด หรือระบุว่าจะขึ้นอัตราภาษีในระดับใด แต่เผยว่าจะเป็นการเก็บภาษีที่ค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้สูงเกินไป และที่สำคัญ  คือ มีเงื่อนไขว่า หากบริษัทใดก็ตามเข้ามาลงทุน ตั้งโรงงาน หรือวางแผนจะเข้ามาในสหรัฐฯ จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี


ทั้งนี้ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ใช้นโยบายภาษีเป็นเสาหลักของนโยบายการต่างประเทศ เป็นการใช้เพื่อกดดันทางการเมือง บีบเจรจาข้อตกลงการค้าใหม่ และเรียกร้องสัมปทานจากประเทศหรือบริษัทที่ส่งออกสินค้าเข้ามายังสหรัฐฯ  


นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวถึง "ทิม คุก" ซีอีโอ ของ แอปเปิล ซึ่งที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะว่า “ผมว่าทิม คุกคงไม่เดือดร้อนเท่าไหร่”


สาเหตุเป็นเพราะว่า บริษัทแอปเปิล (Apple) เพิ่งประกาศเพิ่มการลงทุนในสหรัฐเป็นมูลค่า 600,000 ล้านดอลลาร์ ภายใน 4 ปี ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าขณะนี้ผู้นำในวงการเทคโนโลยีได้เริ่มตอบรับนโยบายของทรัมป์มากขึ้นในการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศวาระที่สองของเขา




ก่อนหน้านี้ช่วงประมาณเดือนที่แล้ว ทรัมป์ เคยกล่าวว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีนำเข้าเซมิคอนดักเตอร์ราว 100% แต่จะไม่บังคับใช้กับบริษัทที่ผลิตในสหรัฐฯ หรือได้ให้คำมั่นว่าจะมาลงทุนในประเทศแล้ว ทั้งนี้บริษัทชิปยักษ์ใหญ่ของไต้หวันอย่าง TSMC รวมถึง Samsung Electronics และ SK Hynix ของเกาหลีใต้ ต่างประกาศลงทุนสร้างโรงงานผลิตชิปในสหรัฐฯ แล้วหลังจากมีประกาศออกไป 


อย่างไรก็ตามขณะนี้รัฐบาลของทรัมป์ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากแรงต้านทางกฎหมายเกี่ยวกับการใช้มาตรการภาษี ซึ่งรัฐบาลของเขาได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาสหรัฐเพื่อเร่งพิจารณาคดีไปแล้ว  หลังจากศาลอุทธรณ์ได้มีคำตัดสินว่าการใช้อำนาจของทรัมป์ในการขึ้นภาษีคู่ค้านั้นมิชอบด้วยกฎหมาย และเกินขอบเขตอำนาจหน้าที่ของประธานาธิบดี หลังจากที่ทรัมป์ได้ประกาศภาษีโดยอ้างกฎหมายปี 1977 ที่ให้อำนาจประธานาธิบดีใช้มาตรการฉุกเฉิน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง