"ฮุนได" ยอดตก-หวั่นภาษีสหรัฐฯ ซ้ำ จับตาหลังญี่ปุ่นได้สิทธิภาษี

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า บริษัทฮุนได มอเตอร์ ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ปีนี้ลดลง เนื่องจากเริ่มได้รับผลกระทบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ พร้อมเตือนว่าผลกระทบจะยิ่งรุนแรงขึ้นในไตรมาสถัดไป โดยบริษัทยังคงเป้าหมายกำไรประจำปีเดิมไว้ แต่จะทบทวนอีกครั้งหลังเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันที่ภาษีตอบโต้ระหว่างประเทศจะมีผลบังคับใช้
ฮุนได ซึ่งรวมกับเครือข่าย แบรนด์เกีย ถือเป็นกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่มียอดขายใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รายงานกำไรจากการดำเนินงานในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายนอยู่ที่ 3.6 ล้านล้านวอน ลดลง ร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์บางส่วน
บริษัทเปิดเผยว่า ภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการไตรมาส 2 เป็นมูลค่าถึง 828,000 ล้านวอน และผลกระทบในไตรมาส 3 จะมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันยังไม่สามารถประเมินได้ชัดเจนว่าอัตราภาษีร้อยละ 25 ที่ใช้อยู่จะลดลงเท่าใด แม้คาดว่ามีแนวโน้มจะผ่อนคลายเล็กน้อย
นักวิเคราะห์มองว่า ฮุนได ยังไม่ได้แสดงท่าทีชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการรับมือผลกระทบจากภาษี ทำให้นักลงทุนต่างชาติอาจไม่มั่นใจ ขณะที่หุ้นของบริษัทปรับตัวลดลง ร้อยละ 2 หลังประกาศผลประกอบการ
ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ยังเผชิญแรงกดดันให้เร่งเจรจาการค้ากับสหรัฐ หลังจากวอชิงตันและโตเกียว ตกลงลดภาษีนำเข้ารถยนต์ญี่ปุ่นเหลือร้อยละ 15 และหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีใหม่เพิ่มเติม ซึ่งสร้างความกังวลให้กับภาคอุตสาหกรรมเกาหลีใต้เป็นวงกว้าง
แม้ต้องเผชิญต้นทุนที่สูงขึ้นจากภาษีนำเข้าและชิ้นส่วนรถยนต์ ฮุนไดกลับยังสามารถเพิ่มยอดขายในตลาดสหรัฐฯ ได้ ร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยไม่ได้ปรับราคาขาย ซึ่งช่วยพยุงรายได้รวมให้เติบโตร้อยละ 7 สู่ระดับ 48.3 ล้านล้านวอน
บริษัทระบุว่า จะปรับกลยุทธ์ด้านราคาให้สอดคล้องกับสภาพตลาดและคู่แข่ง มากกว่าจะยึดตามภาษีของสหรัฐฯ พร้อมพิจารณาแหล่งจัดหาชิ้นส่วนทางเลือก และศึกษาแนวทางขยายการผลิตภายในประเทศสหรัฐฯ ในระยะยาว เพื่อรองรับความไม่แน่นอนในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัทรถยนต์รายใหญ่อื่นอย่าง GM, Stellantis และ Tesla ก็เริ่มรายงานผลกระทบทางการเงินจากภาษีนำเข้าและต้นทุนการผลิตในสหรัฐฯ เช่นกัน โดยเฉพาะจากภาษีที่เรียกเก็บทั้งกับรถยนต์ ชิ้นส่วน รวมถึงเหล็กและอะลูมิเนียมที่ใช้ในการผลิตรถยนต์
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
