รีเซต

นายกฯ กัมพูชาคนใหม่เผย 'ยุทธศาสตร์ 5 เหลี่ยม' กระตุ้นการเติบโต-รักษ์ความยั่งยืน

นายกฯ กัมพูชาคนใหม่เผย 'ยุทธศาสตร์ 5 เหลี่ยม' กระตุ้นการเติบโต-รักษ์ความยั่งยืน
Xinhua
24 สิงหาคม 2566 ( 19:26 )
87
นายกฯ กัมพูชาคนใหม่เผย 'ยุทธศาสตร์ 5 เหลี่ยม' กระตุ้นการเติบโต-รักษ์ความยั่งยืน

พนมเปญ, 24 ส.ค. (ซินหัว) -- วันพฤหัสบดี (24 ส.ค.) ฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีที่ได้รับเลือกคนใหม่ของกัมพูชา เปิดตัว "ยุทธศาสตร์ห้าเหลี่ยม ระยะที่ 1 ปี 2023-2028" ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก ซึ่งยุทธศาสตร์นี้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการเติบโต สร้างงาน รับรองความเสมอภาค เพิ่มประสิทธิภาพ และรักษาความยั่งยืนในการเดินทางสู่การบรรลุวิสัยทัศน์กัมพูชา ปี 2050 (Cambodia Vision 2050)ฮุนมาเนตกล่าวว่าช่วงเวลาอีก 25 ปีข้างหน้าจะเป็นวัฏจักรใหม่สำหรับกัมพูชา และกัมพูชาปรารถนาที่จะยกระดับความภาคภูมิใจของชาติสู่ระดับใหม่เช่นเดียวกับที่เคยทำเมื่อยุคสมัยอังกอร์ ด้วยการสร้างชาติที่แข็งแกร่ง สำคัญ รุ่งโรจน์ และเจริญรุ่งเรืองสู่ประเทศที่มีรายได้สูงภายในปี 2050 โดยรัฐบาลกัมพูชาระบุสิ่งสำคัญ 5 ประการของยุทธศาสตร์ฯ ได้แก่ ประชาชน ถนน น้ำ ไฟฟ้า และเทคโนโลยีพันธกิจของยุทธศาสตร์ดังกล่าวคือการคุ้มครองและรักษาสันติภาพที่ได้มาอย่างยากลำบาก และเร่งการพัฒนาระดับชาติเพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นประเทศรายได้ปานกลางระดับสูงภายในปี 2030 ก่อนกลายเป็นประเทศรายได้สูงภายในปี 2050 พร้อมเสริมว่ายุทธศาสตร์ข้างต้นจะเสริมสร้างความยืดหยุ่นของ 5 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐบาล ภาคเศรษฐกิจ ภาคการเงิน ภาคมนุษย์และทุนทางสังคม รวมถึงภาคสิ่งแวดล้อมและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกัมพูชาจะรับรองการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบยืดหยุ่นต่อภาวะวิกฤติเฉลี่ยราวร้อยละ 7 ต่อปี สร้างงานจำนวนมากขึ้นสำหรับประชาชนกัมพูชา โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ลดอัตราความยากจนให้เหลือต่ำกว่าร้อยละ 10 เสริมสร้างความสามารถการกำกับดูแลและพัฒนาคุณภาพสถาบันสาธารณะ ตลอดจนรับรองการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนฮุนมาเนตทิ้งท้ายว่ารัฐบาลเชื่อมั่นในศักยภาพของตนว่าจะสามารถเอาชนะความท้าทาย อุปสรรค และวิกฤตต่างๆ ในการขับเคลื่อนสังคมกัมพูชาบนเส้นทางสู่การพัฒนา ความก้าวหน้า และความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น โดยการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นเพื่อเดินหน้าไปพร้อมกับความเชื่อมั่นในการบรรลุวิสัยทัศน์กัมพูชา ปี 2050อนึ่ง ฮุนมาเนต วัย 45 ปี สาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร (22 ส.ค.) ที่ผ่านมา หลังจากพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ได้รับชัยชนะถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 23 ก.ค. โดยได้ที่นั่งในรัฐสภา 120 ที่นั่ง จากทั้งหมด 125 ที่นั่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง