ทรูมันนี่ เปิดบริการ Start Invest คาดลูกค้าเปิดบัญชี 20 ล้านรายใน 3 ปี
ทั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทรูมันนี่มากกว่า 15 ล้านราย หันมาลงทุนในการซื้อกองทุนรวมครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoney Wallet โดยบริษัทฯคาดว่าจะสามารถดึงนักลงทุนหน้าใหม่ได้ 600,000 รายในสิ้นปี 2564 และขยายเพิ่มเป็น 20ล้านบัญชีในอีก 3 ปีข้างหน้าขณะเดียวกันคาดว่าจะมีมูลค่าการลงทุนมากกว่า 15,000ล้านบาทในสิ้นปี 2564พร้อมคาดว่าจะสามารถขายกองทุนรวมจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทั่วประเทศทั้ง 26 ราย ในไตรมาส 2 ปีหน้า
นายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม บริษัทแอสเซนต์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า ทรูมันนี่ ได้ทำให้ Financial Inclusion ในประเทศไทยมีความหลากหลายโดยบริษัทฯได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าทรูมันนี่มากกว่า15 ล้านรายซึ่งกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ยังไม่เคยลงทุนสามารถมาลงทุนเป็นครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชั่น TrueMoneyWallet โดยจะมุ่งเน้นลูกค้าที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปสามารถซื้อกองทุนรวมจาก 10บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อาทิ บลจ.ไทยพานิชย์ บลจ.กรุงศรี และบลจ.ทหารไทยเป็นต้น โดยในระยะแรกบริษัทฯ นำเสนอกองทุนรวม มากกว่า 600 กองทุนและในไตรมาสที่สองปีหน้าคาดว่าจะสามารถเปิดให้ลูกค้าซื้อกองทุนได้จากทุกบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนที่มีทั้งสิ้น26 แห่งทั่วประเทศ
“เราต้องการมอบนวัตกรรมทางการเงินที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ทุกคนสามารถใช้จ่าย สร้างหลักประกัน เก็บออม กู้ยืม รวมถึงลงทุนได้อย่างสะดวกรวดเร็วและปลอดภัยผ่านแอปพลิเคชั่นอีวอลเล็ทพร้อมสร้างความมั่นคงทางการเงินที่จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของลูกค้าและลูกค้าสามารถลงทุนได้ภายในเวลาน้อยกว่า 10 นาที”นายธัญญพงศ์ กล่าวและว่า
ปัจจุบันบริษัทฯ มีฐานลูกค้ามากกว่า 15 ล้านรายโดยประมาณ 80เปอร์เซ็นต์เป็นลูกค้าที่มีอายุมากกว่า 20 ปีและสัดส่วนลูกค้าประมาณ 20เปอร์เซ็นต์เป็นนักเรียน นักศึกษา บริษัทฯ คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจะสามารถให้บริการลูกค้าที่ซื้อกองทุนรวมประมาณ 20 ล้านบัญชี มีลูกค้าที่ใช้ TrueMoneyWallet ประมาณ 30 ล้านคนหรือประมาณ 50เปอร์เซ็นต์ของประชากรไทยทั้งประเทศ ปัจจุบันบริษัทฯ มีส่วนแบ่งทางการตลาดของ e-Wallet ในประเทศไทยประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้บริษัทฯ ยังให้บริการ อิเล็กทรอนิกส์เพย์เมนท์ TrueMoney กับลูกค้าในอีก 5 ประเทศคือกัมพูชา
เมียนม่าร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซียโดยในแต่ละประเทศบริษัทฯ มีฐานลูกค้าอยู่ประมาณ 1-2 ล้านรายบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างกระบวนการขอไลเซ่นส์ให้บริการ e-Wallet ในประเทศเมียนม่าร์
ด้านนางสาวณัฐวดี แซ่เอี้ยผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนวัตกรรมทางธุรกิจ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่าบริษัทฯ ได้ต่อยอดพัฒนานวัตกรรมบริการทางการเงินไปสู่การลงทุนในกองทุนรวมผ่านบริการ Start Invest บนแอปพลิเคชั่นTrueMoney Wallet เพื่อรองรับลูกค้าของทรูมันนี่ที่ต้องการลงทุนซื้อกองทุนรวมครั้งแรกได้ง่าย สะดวกและรวดเร็วในการเข้าถึงกองทุนรวมกว่า 600กองทุนและสามารถรองรับเทคโนโลยี e-KYC ที่มีความปลอดภัยสามารถซื้อขายกองทุนรวมได้แบบเรียลไทม์
ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกล่าวว่า การให้บริการ ของ TrueMoneyWallet เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คนไทยสามารถเข้าถึงการลงทุนได้สะดวกยิ่งขึ้น