รีเซต

'นายกฯ' ปลื้ม โพลดังเผยคนเข้าใจประโยชน์ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ดีต่อ จว.ชายแดนใต้

'นายกฯ' ปลื้ม โพลดังเผยคนเข้าใจประโยชน์ฟื้นสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ ดีต่อ จว.ชายแดนใต้
มติชน
9 กุมภาพันธ์ 2565 ( 10:44 )
62

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากผลสำรวจซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เรื่อง “ฟื้นสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ความหวัง ความห่วงใย ชายแดนใต้” จากกรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,137 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 95.5 ระบุทุกคนคือคนไทย ไม่ว่าอยู่ภาคใด ศาสนาและวัฒนธรรมใดในประเทศไทย ก็คือคนไทยด้วยกัน ร้อยละ 94.8 มองว่า เราเป็นคนไทยด้วยกันต่างห่วงใยต่อปัญหาใต้ พร้อมช่วยกันและไม่ทอดทิ้งกัน มากไปกว่านั้น ร้อยละ 90.2 เชื่อว่า การฟื้นสัมพันธ์ฯเป็นโอกาสและความหวัง ในการศึกษาเข้าถึงแก่นของศาสนาและยุติปัญหาความรุนแรง และร้อยละ 89.0 เชื่อว่าเป็นโอกาสของการจัดตั้ง “ศูนย์กลางอาหารฮาลาลโลก” สู่ตะวันออกกลาง เพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนในจังหวัดชายแดนใต้

 

น.ส.รัชดากล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับทราบผลสำรวจดังกล่าว และรู้สึกดีใจที่ประชาชนคนไทยมีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ และที่สำคัญเข้าใจถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ของสองประเทศ ทั้งด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว พลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น และที่สำคัญซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีบทบาทอย่างมากในกลุ่มสมาชิกของกรอบความร่วมมืออิสลาม (Organization of Islamic Cooperation) หรือ OIC ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อความสัมพันธ์ทางการทูตไทยต่อประเทศตะวันออกกลางและประเทศมุสลิมในภูมิภาคอื่น

 

“กลางเดือนกุมภาพันธ์นี้ เลขาธิการองค์การสันนิบาตมุสลิมโลกจะเดินทางจากซาอุดีอาระเบียมาเยือนประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการยกย่องจากประชาคมโลกว่าเป็นปราชญ์ด้านพหุศาสนาและพหุวัฒนธรรม ต้องการผลักดันความร่วมมือในการป้องกันปัญหาความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนต่างศาสนา และจะได้มีการเยี่ยมคารวะสมเด็จพระสังฆราช จุฬาราชมนตรี นายกรัฐมนตรี และประธานรัฐสภาด้วย ซึ่งถือเป็นอีกวาระสำคัญของการเน้นย้ำของไทยในการเคารพซึ่งทุกศาสนา และยึดมั่นแนวทางการพัฒนาบนพื้นฐานสังคมที่มีความหลากหลาย” น.ส.รัชดาระบุ

 

น.ส.รัชดากล่าวว่า เพื่อต่อยอดโอกาสจากการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ไทย-ซาอุฯ นายกรัฐมนตรีกำชับให้เร่งขับเคลื่อนให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ของคนทุกศาสนา ครอบคลุมทุกด้าน พร้อมกับให้เร่งเดินหน้าสร้างการรับรู้ สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ และทาง ศอ.บต.ได้เตรียมจัดเวทีสัมมนาเพื่อระดมความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะจากผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น-ท้องที่ ข้าราชการ และประชาชนทุกสาขาอาชีพกว่า 500 คน ที่มีประสบการณ์ทั้งการเรียน การทำงานและการใช้ชีวิตในราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ข้อมูลที่ได้จะเสนอต่อรัฐบาล เพื่อใช้ประกอบการจัดทำนโยบายและแนวทางการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง