อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีนเข็ม 4 สู้ “โอมิครอน” สะท้อน 3 เข็มต้านโควิดไม่อยู่
---เสริมเกราะป้องกันให้ประชาชน---
นายกรัฐมนตรี นาฟตาลี เบนเนตต์ ของอิสราเอล ประกาศเมื่อวานนี้ (21 ธันวาคม) ว่า ผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี บุคลากรการแพทย์ และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ จะได้รับการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มที่ 4 เพื่อป้องกันการระบาดของ “โอมิครอน” ตามคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญของอิสราเอล
การตัดสินใจดังกล่าวมี ขึ้นในขณะที่รัฐบาลอิสราเอลกำลังดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิดของสายพันธุ์โอมิครอน ทั้งออกมาตรการควบคุมการเดินทางและข้อจำกัดอื่น ๆ แต่หลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์ภายในประเทศ
นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ทวีตข้อความว่า สั่งให้เตรียมการฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ในทันที ก่อนหน้านี้เขาเรียกคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอิสราเอลที่ให้ฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็ม 4 เพื่อรับมือโอมิครอน ว่าเป็นข่าวดี ที่จะช่วยให้ผ่านคลื่นโอมิครอนที่กลืนโลกไปได้ และขอให้ประชาชนที่เข้าเกณฑ์การรับวัคซีนเข็ม 4 รีบเข้ามาฉีดวัคซีน
---ชาติแรกในโลกฉีดวัคซีนเข็ม 4---
ขณะที่โฆษกรัฐบาลระบุว่า อิสราเอลจะเป็นประเทศแรกของโลกที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 และโลกจะเดินตามรอยเท้าของเรา หลังจากที่เคยเป็นประเทศแรกในโลก ที่เริ่มฉีดวัคซีนต้านโควิดเข็ม 3 ให้แก่ประชาชนเช่นกัน
ด้านกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลระบุว่า การฉีดเข็ม 4 จะห่างจากเข็ม 3 อย่างน้อย 4 เดือน ทั้งนี้ ชาวอิสราเอลกว่า 4.1 ล้านคนได้รับวัคซีนเข็ม 3 ไปแล้ว จากประชากรทั้งประเทศ 9.3 ล้านคน เกือบทั้งหมดได้รับวัคซีนของ Pfizer-BioNTech แต่อัตราการฉีดวัคซีนยังคงต่ำในกลุ่มวัยรุ่นและเด็กเล็ก เด็กอายุระหว่าง 5-11 ปี น้อยกว่า 1% เพิ่งได้รับวัคซีนต้านโควิดเข็มเดียว
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์กาเลีย ราฮาฟ หนึ่งในคณะผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การตัดสินใจฉีดวัคซีนเข็ม 4 ให้ประชาชนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับระดับภูมิคุ้มกัน เหมือนตอนที่ตัดสินใจให้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 แต่ข้อมูลอื่น ๆ ที่มีมันช่างน่าหวาดกลัว และในสถานการณ์เช่นนี้ หากคุณไม่ดำเนินการทันที แสดงว่าคุณตกขบวนรถไฟ
---อิสราเอลเสียชีวิตรายแรกจากโอมิครอน---
ส่วนสถานการณ์โอมิครอนล่าสุดในอิสราเอล ผู้ติดเชื้อโอมิครอนในอิสราเอลเสียชีวิตรายแรกเมื่อวันจันทร์ (20 ธันวาคม) เป็นชายอายุในราว 60 กว่าปี ป่วยเป็นโรคอื่น ๆ หลายโรคและมีอาการหนักอยู่ก่อนแล้ว จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยโรคอื่น ๆ ตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว ก่อนจะติดเชื้อโอมิครอนและเสียชีวิต
ด้านกระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลรายงานล่าสุดเมื่อวานนี้ (21 ธันวาคม) พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนยืนยันแล้ว 1,148 คนทั่วประเทศ สูงสุดในรอบ 2 เดือนนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ และกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ติดเชื้อโอมิครอน ฉีดวัคซีนต้านโควิดครบแล้ว
ทั้งนี้ อิสราเอลกำลังพยายามควบคุมการระบาดของ “โอมิครอน” โดยหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการล็อกดาวน์ประเทศ ด้วยการใช้มาตรการไม่รับนักเดินทางจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังแอฟริกาใต้รายงานพบโอมิครอนครั้งแรกเมื่อ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยล่าสุด อิสราเอลประหาศไม่รับนักเดินทางที่มาจากสหรัฐฯ เริ่มมีผลบังคับในวันนี้ (22 ธันวาคม) เป็นเวลานานประมาณ 1 สัปดาห์
---คุมเข้มการเดินทางรับมือโรคระบาด---
การเพิ่มสหรัฐฯ ลงในบัญชีแดงถือเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญสำหรับรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนาฟตาลี เบนเนตต์ เนื่องจากชาวอิสราเอลหลายแสนคนถือสัญชาติอเมริกัน และนั่นหมายความว่า ผู้ถือหนังสือเดินทางอิสราเอล และอาศัยอยู่ในอิสราเอลไม่สามารถบินไปยังสหรัฐฯ ได้ ยกเว้นได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการรับมือโควิดเป็นกรณี ๆ ไป
และทำให้จำนวนประเทศที่อยู่ในบัญชีแดงห้ามเดินทางเข้าอิสราเอลเนื่องมาจากโอมิครอน เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 50 ประเทศ ได้แก่ หลายประเทศในทวีปแอฟริกา ที่พบผู้ติดเชื้อโอมิครอนก่อนใคร และประเทศใหญ่ ๆ ในยุโรปที่ขณะนี้กำลังเจอโอมิครอนระบาดอย่างหนัก รวมถึงเยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เบลเยียม สวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนี้ยังมีแคนาดา สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE และตุรกีด้วย
ส่วนมาตรการอื่น ๆ เพื่อควบคุมโอมิครอน รวมถึงการจำกัดการรับประทานอาหารในห้างสรรพสินค้า และให้เด็ก ๆ ที่อยู่พื้นที่ที่มีตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดสูง หรือที่เรียกว่าชุมชนสีแดงหรือสีส้ม หรือนักเรียนในห้องมีอัตราการฉีดวัคซีนเข็มแรกต่ำกว่า 70% ต้องเรียนหนังสือออนไลน์จากที่บ้าน
โดยนโยบายใหม่มีผลบังคับใช้ทันที สำหรับเด็กอายุ 13 ปีขึ้นไป แต่สำหรับเด็กเล็ก จะมีผลบังคับใช้ในอีก 3 สัปดาห์ข้างหน้า
—————
แปล-เรียบเรียง: เสาวนีย์ พิสิฐานุสรณ์ และ สุภาพร เอ็ลเดรจ
ภาพ: Reuters