รีเซต

ดร.เสรี เตือนพายุบัวลอย ทำไทยเสี่ยงฝนถล่ม เหนือ-อีสานเฝ้าระวัง 28-30 ก.ย.นี้

ดร.เสรี เตือนพายุบัวลอย  ทำไทยเสี่ยงฝนถล่ม  เหนือ-อีสานเฝ้าระวัง 28-30 ก.ย.นี้
TNN ช่อง16
28 กันยายน 2568 ( 15:01 )
15

รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติ ม.รังสิต ให้สัมภาษณ์กับทางรายการ TNN NEWS ข่าวเที่ยง ถึงสถานการณ์เฝ้าระวังอิทธิพลพายุบัวลอยที่จะส่งผลให้ช่วงวันที่ช่วง 28-30 กันยายนนี้ ปริมาณฝนจะตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดที่มีความเสี่ยงสูงสุดคือ พื้นที่จังหวัดน่าน เนื่องจากพายุบัวลอยไม่ได้มีความกดอากาศต่ำมาสร้างอิทธิพลให้พายุอ่อนกำลังลงเหมือนอย่างพายุรากาซา ดังนั้นพื้นที่ไหนที่เคยเจอฝนตกหนักก่อนหน้านี้ให้เตรียมรับมือให้ดีเพราะมีความเป็นไปได้ว่าปริมาณฝนที่จะตกลงมาประมาณ 100-200 มิลลิเมตร รวมถึงการบริหารจัดการน้ำที่ต้องเฝ้าระวังพายุที่อาจจะมาเติมน้ำในเขื่อนหลายพื้นที่

รากาซาผ่านไป บัวลอยยังมาไม่ถึง ฝนก็ตกหนักมีน้ำท่วมหลายพื้นที่แล้วถือว่าถ้าบัวลอยมาถึงจริงจะน่าเป็นห่วงมากน้อยแค่ไหน?

ความจริงมองว่าจากรากาซาที่ขึ้นไปตอนบนความหนาวเย็นเขาอ่อนลงอย่างมีนัยยะสำคัญ แต่ว่าพายุบัวลอยลูกนี้ลงต่ำ ในลักษณะจะเข้าเหนือดานังนิดนึง ผลกระทบเราในขณะนี้ก็ดูว่าความกดอากาศสูงจะทำให้เค้าแผ่วไหม ปรากฎว่าไม่มีลงมาเลย คิดว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนตั้งแต่ เลย อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร ฝนจะตกหนักช่วงเย็นๆ แล้วก็พรุ่งนี้จะไปเข้า น่าน เชียงราย พะเยา ลำปาง เชียงใหม่ 2 วันที่หนัก วันนี้ภาคอีสานจะตกต่อเนื่องถึงพรุ่งนี้ด้วย แล้วก็พรุ่งนี้เข้าเหนือก็จะตกถึงวันที่ 30 ก.ย.   คาดการณ์ว่าฝนจะตกในอัตรา 100-200 มิลลิเมตรได้  ก็เป็นประเด็นว่าต้องมีพื้นที่น้ำไหลหลากแน่นอน เวลาเรารันโมเดลเราไม่สามารถมองเห็นว่าจุดนี้มันจะท่วม หรือไม่ท่วม หรือจะไหลหลากไหม   เพราะฉะนั้นเราชี้ให้เห็นว่าท้องถิ่นนี้ต้องคอยสังเกตนะ ว่าแถบน้ำเงินแบบนี้คือเป้าหมายที่จะน้ำท่วม ต้องวางแผนว่าตรงไหน

แสดงว่าถ้าเผชิญพายุบัวลอยในครั้งนี้ หลายพื้นที่น่าจะเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากด้วย?

พื้นที่เสี่ยงสูงสุดตอนนี้ เราชี้ไปที่น่าน ช่วงตอนบนฝนจะตกหนักมาก แล้วก็จะเข้าไปแม่สาย แล้วก็ตัวเชียงรายเอง ตัวเชียงใหม่ก็มีโอกาส นอกจากนี้ตัวร่องก็พาดผ่านภาคกลางก็ทำให้ร่องแรงขึ้นเหมือนกันก็เป็นลักษณะน้ำท่วมรอการระบายบางพื้นที่ได้ แต่หนัก ๆ คิดว่าอีสานบนบึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี เลย แล้วก็ไปน่าน  แม่สาย เชียงราย เชียงใหม่ พะเยา

อาจารย์ประเมินเรื่องของระบบการเตือนภัยในช่วงนี้ยังไงบ้าง จะมีส่วนช่วยลดผลกระทบของน้ำท่วมได้มากน้อยแค่ไหน?

เรื่อง Cell Broadcast ก็เป็นความคาดหวังของประชาชน แน่นอนว่าเราจะใช้ Cell Broadcast ต่อเมื่อเป็นภัยลักษณะฉุกเฉิน ใกล้ตัว และก็เกิดแน่ ทำให้ประชาชนมีอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ยกตัวอย่างจากพายุที่ผ่านมา 4 ลูก วิภา คาจิกิ หนองฟ้า ก็มีการส่ง Cell Broadcast  ไปให้ พายุวิภาส่ง  Cell Broadcast ไปถึง 73 ครั้ง ด้วยความกังวลจริงว่ามันแรงมาก แน่นอนฝนที่น่าน 430  มิลลิเมตร ที่ผ่านมา แล้วก็ตัวพายุคาจิกิก็ส่งไป 32 ครั้ง พายุหนองฟ้าก็ส่งไป 30 ครั้ง  แล้วครั้งนี้พายุบัวลอย ส่ง Cell Broadcast  ไปเมื่อวาน เป็นการแจ้งเหตุพื้นที่เป้าหมายเป็นจังหวัด ก็จะชี้เป้าหมายอีกทีช่วงบ่ายว่าจะเป็นยังไงบ้าง   เราจะไม่ส่ง Cell Broadcast แบบบ่อย ๆ ถี่ๆ เพราะว่าเป็นการรบกวน   แต่ว่าแน่นอนถ้าเหตุรุนแรงถ้าจำเป็นต้องส่ง Cell Broadcast ก็ต้องส่ง

การเตรียมตัวรับมือของประชาชนในพื้นที่ เพราะคาดการณ์ว่าบัวลอยน่าจะกระทบกับไทย   จะช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นได้อย่างไรบ้าง?

ทิศทางเขาจะคล้ายกับพายุคาจิกิ ถ้าท่านได้รับผลกระทบช่วงนั้นเป็นยังไง และสิ่งที่ศูนย์เตือนภัยแห่งชาติเตือนไปเป็นรายจังหวัดก็ขอให้จังหวัดในพื้นที่ให้ตั้งศูนย์เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตั้งแต่บ่ายนี้จะตกที่แถวภาคอีสานตอนบน ท้องถิ่นต้องช่วยเหลือตัวเองอย่างมากที่สุด เพราะเขาสามารถรู้พื้นที่เสี่ยงได้ ในระดับตำบล หมู่บ้าน   ถ้าเห็นว่าฝนตกหนักเกิน 90-100 มิลลิเมตรควรจะอพยพประชาชน เพราะฝนจะตกหนักติดกัน 2 วัน ต่อเนื่อง เราต้องไม่ประมาณ

การจัดการน้ำโดยเฉพาะลุ่มภาคกลาง อาจารย์มองว่าเป็นอย่างไรบ้างมีประสิทธิภาพและสามารถรับมือได้แค่ไหนโดยเฉพาะความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมกรุงเทพ?

เมื่อวานนี้เรามีการประชุมหลายหน่วยงาน ประเมินความเสี่ยงว่าเขื่อนที่เรากังวลมากที่สุดคือ “เขื่อนสิริกิติ์” เหลือประมาน้ำไม่ถึงพันล้าน  ก็มีการคาดการณ์ว่าบัวลอย จะเอาน้ำเข้ามาสัก 500 ลูกบาศก์เมตร “เขื่อนสิริกิติ์” ก็ต้องบริหารลักษณะว่าถ้ายังได้ลูกนี้ ก็วันที่ 5-6 จะมีอีกลูกเข้ามา บัวลอยท่านได้ แต่หลังบัวลอยต้องปล่อยน้ำเพื่อรอรับพายุลูกใหม่ ส่วน”เขื่อนภูมิพล”ยังมีพื้นที่อยู่ไม่น่าจะกังวล เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนในอีสานก็มีหลายเขื่อนที่มีน้ำใกล้เต็ม จึงให้ความสำคัญเพราะว่าเวลาน้ำเต็มเขื่อนแล้วมันควบคุมอะไรไม่ได้ ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องน้ำท่วมพื้นที่ภาคกลางว่าน้ำจะท่วมใหญ่ เพราะว่าเขื่อนมีปริมาณรองรับ  น้ำท่วมใหญ่ในลักษณะปี 54 จะไม่เกิดขึ้นในปีนี้พื้นที่ภาคกลาง แต่ลุ่มน้ำชีตอนนี้หลายเขื่อนก็มีความเป็นห่วงเหมือนกัน

อาจารย์มองว่าการบริหารจัดการน้ำอาจจะแตะถึง 3,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีไหม?

ขณะมีการคาดการณ์ว่าจะแตะ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ที่เขื่อนเจ้าพระยา อย่างไรก็ตามคาดการณ์ก็คือคาดการณ์ ถามว่าจะแตะ 3,000 ไหม ถ้าแตะนี่ถือว่าเรื่องใหญ่ อย่างที่เรียนข้างต้นว่าหลังจากพายุบัวลอยลงมาแล้ว อาจจะไป2,300 ได้ หลังจากนั้นก็ต้องเร่งระบายน้ำก่อนรอรับพายุลูกใหม่ ซึ่งเดือนตุลาคมพายุจะพาดผ่านภาคกลางด้วย ก็ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

โอกาสในการเกิดพายุลูกต่อไปยังมีอีกหรือไม่ประเมินเบื้องต้นน่าจะมีอีกกี่ลูกในช่วงหลังจากนี้?

อันนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ก็รู้ว่าจะเดินเหนือพายุบัวลอยนิดนึง ก็ต้องดูเพราะการคาดการณ์เส้นทางสัก 3-5 วันถึงจะชัดเจน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง