เปิดคำแนะนำการฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็ก ให้ฉีดวัคซีนใดเป็นลำดับแรก

วันนี้ (11ก.พ.65) ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศแนะนำว่า ให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิดชนิด mRNA ไฟเซอร์ เป็นลำดับแรกในเด็กและวัยรุ่นอายุทั้ง 2 กลุ่มอายุ คือ 5-11 ปี และ12-17 ปี
โดยให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ 2 เข็มห่างกัน 8 สัปดาห์เนื่องจากมีข้อมูลด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในเด็กเพียงพอ ทำให้ระดับภูมิคุ้มกันหลังเข็ม 2 สูงขึ้นระยะเวลาป้องกันนางขึ้นและลดความเสี่ยงในการที่จะเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบได้
พิจารณาให้ใช้วัคซีนป้องกันโควิดชนิดเชื้อตายซิโนแวกหรือซิโนฟาร์มเป็นวัคซีนทางเลือก สำหรับการฉีดในเด็กอายุตั้งแต่ 6 - 17 ปี โดยแนะนำเป็น "สูตรไขว้" ให้ฉีดซิโนแว็กซ์หรือซิโนฟาร์มเป็นเข็มที่ 1 และฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ไฟเซอร์ขนาดตามอายุเป็นเข็มที่ 2 เข้ากล้ามเนื้อห่างจากวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่างน้อย 4 สัปดาห์ จะได้ภูมิคุ้มกันใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ไฟเซอร์ 2 เข็ม
แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเข็มกระตุ้นในเด็กอายุ 12-17 ปีที่เคยได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ครบ 2 เข็มแล้ว อย่างน้อย 4-6 เดือนด้วยการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ไฟเซอร์ 1 เข็ม โดยแนะนำให้ฉีดกระตุ้นในเด็กกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มโรคเป็นลำดับแรก รวมทั้งเด็กที่มีพัฒนาการช้า จากนั้นให้ฉีดเข็มกระตุ้นแก่เด็กปกติในลำดับถัดไป
ส่วนเด็กที่เคยได้รับวัคซีนชนิดเชื้อตายซิโนแวกหรือซิโนฟาร์ม 2 เข็ม แนะนำให้ฉีดวัคซีนชนิด mRNA ไฟเซอร์ อีก 1 เข็ม ห่างจากฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายอย่างน้อย 4 สัปดาห์
ในเด็กและวัยรุ่นที่เคยมีการติดโควิดมาก่อนแล้วไม่ว่าจะแสดงอาการหรือไม่ก็ตาม หากไม่เคยได้รับวัคซีนแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด ชนิด mRNA ไฟเซอร์ เมื่อครบ 3 เดือนนับจากที่เริ่มมีอาการหรือกรณีไม่แสดงอาการนับจากวันที่มีผลตรวจด้วย RT-PCR หรือ ATK
ส่วนกรณีเด็กอายุน้อยกว่า 12 ปี ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ไฟเซอร์ฝาสีส้มแถบส้มเป็นเข็มแรก และต่อมามีอายุครบ 12 ปีก่อนการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แนะนำให้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ด้วยวัคซีนฝาสีส้มแถบสีส้มขนาด 10 ไมโครกรัม หากได้รับวัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNAไฟเซอร์ฝาสีม่วงแถบม่วงขนาด 30 ไมโครกรัม ก็ถือว่าได้รับวัคซีนครบเช่นกันทั้งหมดนี้ควรให้ฉีดเข้ากล้ามเนื้อยังไม่แนะนำให้ฉีดเข้าชั้นผิวหนัง
ภาพจาก TNN ONLINE