รีเซต

ชาวบางบาลปิดถนน จี้กรมชลฯระบายน้ำเข้าทุ่งผักไห่ ต่างฝ่ายต่างเจอน้ำท่วม หวิดปะทะ

ชาวบางบาลปิดถนน จี้กรมชลฯระบายน้ำเข้าทุ่งผักไห่ ต่างฝ่ายต่างเจอน้ำท่วม หวิดปะทะ
มติชน
4 ตุลาคม 2565 ( 14:30 )
92
ชาวบางบาลปิดถนน จี้กรมชลฯระบายน้ำเข้าทุ่งผักไห่ ต่างฝ่ายต่างเจอน้ำท่วม หวิดปะทะ

เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่บริเวณสี่แยกมิยาซาว่า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ถนนทางหลวงชนบทหมายเลขข อย.4031 บางบาล-ผักไห่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา มีกลุ่มชาวบ้านใน ต.บางหัก ต.บางหลวง ต.วัดตะกู อ.บางบาล กว่า 200 คน นัดรวมตัวกัน เรียกร้องให้กรมชลประทานระบายน้ำเข้าทุ่งใน อ.ผักไห่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกน้ำท่วมกว่า 2 เมตร เป็นเวลากว่า 2 เดือน

 

กลุ่มชาวชาวบ้านกล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมตั้งแต่เดือนสิงหาคมจนเข้าสู่เดือนตุลาคมเป็นเวลากว่า 2 เดือน ระดับน้ำท่วมสูง การสัญจรไปมาลำบากต้องใช้เรือ พืชผลทางการเกษตร รวมทั้งทรัพย์สินเสียหาย  หลายบ้านมีเด็กเล็กและมีผู้ป่วยติดเตียง แต่กรมชลประทานรับปากว่าจะระบายน้ำเข้าทุ่งตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ก่อนจะเลื่อนเป็นปลายเดือนกันยายน ซึ่งการระบายน้ำเข้าทุ่งยังมีปริมาณที่น้อยเกินไป ชาวบ้านยังได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมสูงขึ้นทุกวัน อยากให้กรมชลประทานช่วยระบายน้ำเข้าทุ่งให้มากกว่านี้ ให้ชาวชาวบ้านสามารถใช้ชีวิตประจำวันภายในบ้านได้

 

ทั้งนี้ ชาวบ้านเข้าใจว่าเพราะอาศัยริมน้ำ ถูกน้ำท่วมทุกปี แต่ที่ผ่านมาน้ำท่วมแค่ใต้ถุนบ้าน ด้านบนยังอาศัยอยู่ได้ แต่จากการบริหารจัดการน้ำของกรมชลประทานแบบนี้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ไม่มีที่จะอยู่

นายภาณุพงษ์ บุญกฤษณ์ หนึ่งในชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ได้นำเช็คจ่ายเงินเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนบ้านถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายเมื่อปี 2564 เป็นจำนวนเงิน 120 บาท ที่ยังเก็บเอาไว้ ไม่ได้เอาไปขึ้นเงิน เพราะจำนวนเงินน้อยมากกับความเสียหายและความลำบากของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเมื่อปีที่แล้ว ทนไม่ไหวต้องออกมาเรียกร้อง

ต่อมากลุ่มชาวบ้านได้รวมตัวกันนำรถยนต์ไปปิดขวางถนนทันทีเมื่อเห็นรถบรรทุกของกรมชลประทานจะวิ่งผ่าน และให้คนขับจอดรถจนเกือบมีการปะทะกันขึ้น ต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเจรจา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านเรียกร้องให้กรมชลประทานออกมาชี้แจงและทำความเข้าใจกับชาวบ้านและให้เร่งระบายน้ำเข้าทุ่ง ซึ่ง นายนิวัฒน์ เพียรนุลา หัวหน้าฝ่ายจัดสรรน้ำ สำนักงานระบายน้ำโครงการชลประทานผักไห่ ได้เดินทางมาพูดคุยทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงการระบายน้ำเข้าทุ่งว่า เหตุที่ระบายน้ำเข้าทุ่งช้าเนื่องจากมีชุมชนและชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ของทุ่งผักไห่อยู่บางส่วน และต้องควบคุมน้ำไม่ให้ท่วมถนนสายบางบาล-ผักไห่ เนื่องจากเป็นถนนสายหลัก จะสัญจรไปมาไม่ได้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านเพราะชาวบ้านเห็นว่าตนเองก็เดือดร้อนมานานแล้ว ต่างส่งเสียงโห่ร้อง

 

ระหว่างนั้นมีกลุ่มชาวบ้านที่อยู่ในทุ่งผักไห่ ซึ่งมีการระบายน้ำเข้าทุ่งไปแล้วบางส่วนได้รับความเดือดร้อนเหมือนกัน น้ำท่วมถนนทางเข้าหมู่บ้าน ต้องหนุนบ้านนอน จนเกิดการโต้เถียงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาแยกย้าย

 

ต่อมา มีการเรียกตัวแทนชาวบ้านทั้งสองฝั่ง ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชลประทาน ร่วมพูดคุยประมาณ 30 นาที โดยข้อสรุปทางชลประทานผักไห่จะเปิดประตูระบายน้ำทั้ง 3 ประตูเพิ่มขึ้น คือประตูระบายน้ำคลองตานึ่ง ประตูระบายน้ำใบบัว ประตูระบายน้ำกุฎี ซึ่งในทุ่งนี้จะรับน้ำได้ประมาณ 1.60 เมตร ปัจจุบันอยู่ที่ 60 ซม. การระบายน้ำเข้าทุ่งจะทำให้ระดับน้ำไม่ท่วมถนนสายบางบาล-ผักไห่ เพื่อให้ประชาชนได้สามารถใช้สัญจรไปมาได้ จากนั้นกลุ่มชาวบ้านได้แยกย้ายกันกลับ โดยจะยังเฝ้าติดตามดูการเปิดประตูระบายน้ำของชลประทานอย่างใกล้ชิด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง