รีเซต

3คดีรุกโบราณสถานคืบเตรียมออกหมายจับเพิ่ม

3คดีรุกโบราณสถานคืบเตรียมออกหมายจับเพิ่ม
มติชน
5 มีนาคม 2565 ( 14:55 )
64

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลานำทีมส่วนราชการขึ้นไปประกอบพิธีบวงสรวงเจดีย์องค์ดำ-องค์ขาว บนยอดเขาแดงหลังทำการบูรณะแล้วเสร็จ ในขณะที่คดีนั้นมีความคืบหน้าไปทั้ง 3 คดี ยันไม่มีคำว่าอิทธิพล มีแต่ผู้กระทำผิด ที่จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย รายงาน มท.1 ทราบสั่งการเดินหน้าปราบ

 

รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 5 มีนาคมนี้ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อม นายพงศ์ธันว์ สำเภาเงิน ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 สงขลา ตำรวจ ฝ่ายปกครองสิงหนคร รวมถึงเจ้าหน้าที่จาก ป.ป.ช.จังหวัดสงขลา ร่วมประกอบพิธีบวงสรวงเจดีย์องค์ดำ-องค์ขาว บนยอดเขาแดงหลังทำการบูรณะแล้วเสร็จจากกรณีมีผู้เข้าไปทุบทำลายฐานเจดีย์องค์ดำก่อนหน้านี้

 

นายเจษฎา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าทางคดี หลังจากมีการลอบขุดตัดตนไม้ปรับพื้นที่เป็นถนนในเขตโบราณสถาน หลายจุด โดยล่าสุดนั้นคดีมีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางสำนักศิลปากรได้แจ้งความดำเนินคดีแยกเป็น 3 คดี ได้แก่ คดีแรกคือจุดที่ทำการขุดตัดไม้ทำถนนบริเวณหัวเขาแดงระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรจากด้านล่างขึ้นสู่ยอดเขา คดีที่ 2 คือที่ ภูเขาน้อย ด้านหลักป้อมเมืองสงขลาเก่า หมายเลข 9 ที่อยู่ด้านตรงข้ามกับเขาแดง คดีที่ 3 คือการทุบทำลาย โบราณสถานเจดีย์องค์ดำ 2 จุด บนยอดเขาแดง

 

ทั้ง 3 คดีนั้นมีความคืบหน้าไปมาก โดยเฉพาะในจุดที่ 1 ที่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหานายสมบัติ เหาตะวณิช ไปแล้ว 1 ราย ทั้งความผิดฐานบุกรุกโบราณสถาน และ แผ้วถางทำลายป่า ตามพรบ.ป่าไม้ ซึ่งผู้ต้องหาให้การภาคเสธ อย่างไรก็ตามได้เน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามพยานหลักฐานที่พบทั้งหมด ซึ่งบทลงโทษในฐานความผิดทั้ง 2 คดีนั้น มีโทษจำคุก 7 ปี หรือ 10 ปี ในบางฐานความผิดและปรับกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งได้เร่งรัดรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งฟ้องคดี ส่วนในคดีที่ 2 นั้นได้ดำเนินการเช่นเดียวกัน ขณะนี้การรวบรวมพยานหลักฐาน และ สอปากคำพยาน พยานแวดล้อม ทำให้ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้ว เตรียมเสนอศาลขออนุมัติหมายจับเช่นเดียวกัน ส่วนในคดีทุบทำลายเจดีย์องค์ดดำนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีความเชื่อโยงกับคดีที่1และ 2 หรือไม่

 

 

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยืนยันว่าไม่รู้ว่าคำนิยามของผู้มีอิทธิพลว่าเป็นอย่างไร รู้เพียงแต่ในฐานะ ข้าราชการเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องทำเต็มที่ ใครทำผิดต้องได้รับโทษตามการกระทำ แต่คนที่จะตัดสินก็คือกระบวนการยุติธรรม โดยได้นำประเด็นนี้รายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมถึง ผู้บริหารกระทรวงทั้งหมดแล้ว ซึ่งได้มอบนโยบายให้ตนเองดำเนินการสั่งการประสานการทำงานกับหน่วยปฏิบัติทุกหน่วยให้เต็มที่ ตามพยานหลักฐาน ผู้ใดกระทำความผิดให้ดำเนินคดีเด็ดขาดทุกราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง