"เอกชน"จี้รัฐดึงเจรจาสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะปกติ

ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือกกร. กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยในตอนนี้ที่เติบโตเพียงร้อยละ2 ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาคอรัปชั่น ที่เป็นปัญหาเรื้อรังของไทยมานาน ประกอบกับปัจจัยเสี่ยง ดังนั้นจึงมองว่า GDP ไทยปีนี้ควรจะเติบโตได้ร้อยละ 4-5 หากไม่มีปัญหาคอรัปชัน
อย่างไรก็ตาม มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งคนละครึ่งพลัส มาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไตรมาส 4 ให้เติบโตได้และมองว่าการที่รัฐบาลอนุมัติเงินเพิ่มเติม ร้านค้าคนละครึ่งพลัสที่เข้าอบรม จำนวน 2,000 บาท เป็นเรื่องที่ดีที่จะช่วยพัฒนาทักษะผู้ประกอบการ นอกจากนี้มองว่าควรเดินหน้าคนละครึ่งพลัสระยะที่ 2 เพื่อให้การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วย ส่วนการเจรจากับสหรัฐฯจะยังเดินหน้าต่อ และเป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีกล่าวไว้
ด้านนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เรื่องผลกระทบจากประเด็นไทย–กัมพูชา และผลสืบเนื่องจากการเคลื่อนไหวของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แม้เอกสารจาก USTR ที่ระบุการระงับเจรจาการค้ากับไทย อาจมีความคลาดเคลื่อนด้านเวลาและขั้นตอน แต่โดยรวมสหรัฐฯ ยังมีเจตนารมณ์เดินหน้าการเจรจาการค้ากับไทย ภาคเอกชนจึงหวังว่าการเจรจาจะกลับสู่กระบวนการปกติโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้า
สำหรับผลกระทบต่อการส่งออกและการลงทุนนั้น มองว่าความต้องการในตลาดสหรัฐฯ ยังคงมีความไม่แน่นอนด้านภาษีและมาตรฐาน อาจเพิ่มต้นทุนและความเสี่ยง โดยเฉพาะสินค้าเกษตร อาหารแปรรูป และสินค้าอุตสาหกรรมที่ต้องรอมาตรฐานสหรัฐฯ
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
