ฉายความจริง! "หาดอ่าวนาง" วันนี้ไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว

แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดกระบี่และของประเทศ คือหาดอ่าวนาง ตำบลอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่ ที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมเดินทางมาสัมผัสกับธรรมชาติทางทะเลในแต่ละวันไม่ต่ำกว่า 1 หมื่น ที่มาลงเรือท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ ทั้งนอนตากแดด เดินเล่นตามชายหาด ลงเล่มน้ำทะเล หรือเดินช๊อปปิ้งตามร้านค้าที่อยู่หน้าชายหาดเป็นจำนวนมาก 

แต่ภายหลังจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 บริเวณดังกล่าว กลับเงียบเหงาไม่เห็นนักท่องเที่ยวแม้แต่คนเดียว โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆส่วนใหญ่ปิดกิจการและประกาศขายกิจการ รวมไม่ต่ำกว่า 200 แห่ง ส่วนร้านค้า ร้านอาหาร ที่เปิดอยู่เนื่องจากได้จ่ายค่าเช้าไปก่อนหน้านี้ ส่วนโรงแรมที่เปิดให้บริการจะเป็นระดับ 4 – 5 ดาว ที่พอจะมีทุนสำรองในการพยุงตัวเองเพื่อให้อยู่รอดไปวันๆเท่านั้น โดยเฉพาะริมชายหาดจะเห็นได้ว่าเรือหัวโทงหรือเรือหางยาวนำเที่ยวไม่มีแม้แต่ละเดียว ทั้งนี้ได้รับผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิดมาเป็นระยะเวลากว่า 8 เดือน

นางสาวศศิธร กิตติธรกุล นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ กล่าวถึงภาพรวมของการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ ที่ได้รับกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19  จนถึงปัจจุบันว่า แน่นอนการท่องเที่ยวมีผลกระทบหนักที่สุดถือว่าร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะว่ากระบี่มีการล็อคดาวเมืองคนกระบี่ออกไม่ได้คนนอกเข้าไม่ได้ เว้นแต่ว่ามีใบอนุญาต ทำกิจโรงแรม บริษัททัวร์ ร้านอาหาร ร้านค้า ปิดกิจการชั่วคราวก่อน แต่ระยะเวลาค่อนข้างนานเกินที่ประเมินไว้ 3 เดือน ซึ่งช่วงแรกคนกระบี่ร่วมแรงร่วมใจกันให้คนกระบี่รักษาความปลอดภัยจากโควิด 19 แต่พอระยะเวลาเริ่มยาวนานรายได้ก็ไม่มี การาจ้างงาน การปลดพนักงานก็เกิดขึ้น อุปสรรคปัญหาก็ตามมา และประเทศไทยได้ปิดประเทศด้วยไม่สามารถรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาได้ ซึ่งเดิมที่กระบี่มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 75 เปอร์เซ็นต์ คนไทย 25 เปอร์เซ็นต์ 

เมื่อชาวต่างชาติเข้ามาไม่ได้การตลาดต้องปรับเปลี่ยนมาเป็นคนไทย ให้ไทยเที่ยวไทย ทำให้กระบี่เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นโยบายของรัฐบาลก็ดีแต่ต้องยอมรับว่ายังไม่เพียงพอจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน เพราะสถานประกอบการมีเยอะมาก แต่ละแห่งไม่สามารถที่จะเปิดได้เพราะว่านักท่องเที่ยวยังเข้ามาไม่พอ เรามีแค่วันหยุดเสาร์และอาทิตย์ บางแห่งที่พักยังเป็นศูนย์ มาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาอยากขอความเห็นใจอย่างเช่นเราทั่วด้วยกัน หากต่ออายุให้แจ้งผู้ประกอบการล่วงหน้าหรือประกาศล่วงหน้าก็ยังดี ไม่อย่างนั้นพอมันหมดไปแล้วคุณไม่รู้ก็ไม่ทันเที่ยวมันจะน้อยลง มันจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้น 

นางสาวศศิธร กล่าวต่อไปว่าและหลายๆผู้ประกอบการที่ห้องพักจำนวนเยอะๆเปิดธุรกิจได้ยากมากจริงๆ กลัวว่าจะลากต่อไปไม่ไหว ขณะนี้มีหลายแห่งที่ประกาศขายกิจการ หรือว่าภายในครึ่งปีหน้าระบบยังไม่ได้ฟื้นฟูกันจริงๆจังๆมันจะดำเนินการต่อไปยากมากขึ้น จะส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจที่จะล้มได้ง่ายมาก อยากให้รัฐบาลช่วยคุยกับทางธนาคารว่ามีมาตรการอย่างไรในการพักหนี้หรือว่าลดดอก ในการช่วยเหลือผู้ประกอบการตรงนี้ได้บ้าง ลำพังผู้ประกอบการอย่างเดียวหรือเพาเวอร์ของผู้ประกอบการเฉพาะรายก็คงไม่เพียงพอแล้วที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของตัวเอง

ในช่วงมีการแพร่ระบาดผู้ประกอบการขาดรายได้จากการท่องเที่ยวเท่าไหร่นั้น แล้วแต่สถานประกอบการแต่ที่แน่กว่า 90 เปอร์เซ็นต์  เพราะเจ้าของต้อลงมือมาทำเอง เช็คอีเมลล์ ต่อโทรศัพท์ เช็ค และไลท์อะไรหลายอย่างเองหมด ที่เคยจ้างก็ต้องมาทำเองทั้งสิ้น เพราะไม่รู้ว่าสถานการณ์อย่างนี้อยู่กับเราไปนานแค่ไหน อะไรที่พอจะจ้างเป็นครั้งเป็นคราวได้ก็จะจ้าง ซึ่งไม่อยากให้ลูกน้องที่เคยอยู่ด้วยกันว่างงาน เพราะทุกคนต้องกินต้องใช้มีครัวครอบต้องดูแล 

ส่วนโรงแรมระดับ 3 – 5 ดาว ที่มีการประกาศขายมี 10 กว่าแห่งในพื้นที่จังหวัดกระบี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับ 3 ดาวน่าเป็นห่วงมากที่สุด หากเกิดว่าสถานการณ์ยังคงเป็นแบบนี้น่าจะมีเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่เราไม่อยากจะให้ถึงจุดนั้น

รวมสิทธิส่งเสริมคุณภาพชีวิต เกาะติดเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ทันเรื่องราวกระแสสังคม

สัมผัสประสบการณ์ข่าวได้ที่ แอปพลิเคชัน ทรูไอดี (ดาวน์โหลดเลยที่นี่!!)