ญี่ปุ่นสุดงง เจอหนุ่มปริศนา อ้างว่ายน้ำมาจาก 'รัสเซีย' เพื่อขอลี้ภัยในประเทศที่สาม
ญี่ปุ่นสุดงง เจอหนุ่มปริศนาอ้างว่ายน้ำข้ามทะเล มาจากเกาะของ 'รัสเซีย' มายังประเทศญี่ปุ่น เพื่อขอลี้ภัยใน 'ประเทศที่สาม' ชาวเน็ตเชื่อเรื่องนี้มีเงื่อนงำ
เรื่องราวสุดแปลกประหลาดนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา ภายใน 'เมืองชิเบตสึ' เมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของจังหวัดฮอกไกโด ทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นเมืองประมงเล็ก ๆ ที่มีผู้อยู่อาศัยไม่กี่พันคน และค่อนข้างเงียบสงบ
ทำให้เรื่องที่เกิดขึ้นนี้กลายเป็นที่น่าสนใจ หลังจากที่ ผู้คนในบริเวณดังกล่าวบังเอิญเดินไปพบกับชายปริศนาคนหนึ่ง ที่แต่งกายด้วยชุดกีฬาพร้อมรองเท้าผ้าใบ หมวกปีกกว้างและสวมหน้ากาก ที่ได้อ้างว่าตนนั้น 'เพิ่งว่ายน้ำมาจากรัสเซียและต้องการหาที่ลี้ภัย' พวกเขาจึงได้พาชายคนนี้ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือ
แม้ว่าคำกล่าวอ้างของชายปริศนารายนี้อาจจะดูน่าเหลือเชื่อ ซึ่งมันก็มีความเป็นไปได้อยู่บ้าง เพราะห่างออกไปนอกชายฝั่งจากเมืองชิเบตสึราวๆ 20 กิโลเมตร ก็จะพบกับ 'เกาะคุนาชิร์' เกาะที่กำลังเป็นข้อพิพาทของทั้งสองประเทศ ที่ปัจจุบันอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศรัสเซีย
ทว่าแม้ว่าชายปริศนารายนี้จะสามารถว่ายน้ำข้ามทะเลมาได้ก็จริง แต่ด้วยอุณหภูมิของน้ำที่มีความเย็นถึง 15 องศาเซลเซียส นั้นก็สามารถทำให้ชายที่แข็งแรงสามารถหมดสติได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามก็ไม่มีใครทราบสาเหตุและจุดประสงค์ ที่ชายปริศนารายนี้ว่ายน้ำข้ามทะเลมายังญี่ปุ่น โดยชายรายนี้ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของญี่ปุ่นเพียงว่าเขามีความประสงค์ที่จะขอลี้ภัยใน 'ประเทศที่สาม' นั่นก็คือไม่ใช่ประเทศญี่ปุ่นหรือประเทศรัสเซียนั่นเอง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจังหวัดฮอกไกโดและสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองซัปโปโร ก็กำลังสอบสวนข้อเรียกร้องของเขาและพยายามยืนยันตัวตนของเขาอยู่ในปัจจุบัน
ทั้งนี้เรื่องราวการว่ายน้ำของชายรายนี้กลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนักบนโลกออนไลน์ของญี่ปุ่น เพราะพวกเขาค่อนข้างไม่เชื่อว่าจะมีคนใดสามารถว่ายน้ำข้ามทะเลที่เย็นเฉียบนี้มาได้จริง ๆ ต่อให้อุณหภูมิของทะเลจะสูงขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
และยังตั้งขั้อสันนิษฐานว่าชายปริศนารายนี้อาจจะพายเรือมา ก่อนที่จะโดดลงน้ำและว่ายข้ามมายังญี่ปุ่น บ้างก็ว่าเขานั้นเป็นสายลับ บ้างก็เดาถึงเหตุผลที่เขาต้องหนีออกจากรัสเซีย ซึ่งด้วยรายละเอียดที่ยังค่อนข้างน้อยของรายงานเรื่องราวดังกล่าว ก็อาจจะนำมาสู่ความคลาดเคลื่อนต่าง ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ทำให้ชาวเน็ตญี่ปุ่นมีความสนใจและติดตามเรื่องราวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
https://www.youtube.com/watch?v=6dIQuLaOVMk&t=61s
ที่มา : soranews24