สงขลายอด 'โควิด' พุ่งน่าตกใจ พบติดเชื้อ 113 ราย จากคลัสเตอร์เรือนจำและงานฉลอง สธ.

สงขลายอด 'โควิด' พุ่งน่าตกใจ พบติดเชื้อ 113 ราย จากคลัสเตอร์เรือนจำและงานฉลอง สธ. แม่ทัพภาค 4 บินตรวจชายแดน อุดช่องโหว่กันหนีเข้าประเทศ

วันที่ 1 มิ.ย.64 นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ประธานกรรมการโรคติดต่อ จ.สงขลา เปิดเผยว่า จ.สงขลา พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 113 ราย จากกคลัสเตอร์เรือนจำ 92 ราย และอีก 21 รายมาจากคลัสเตอร์เล็ก เช่น จากการฉลองสมาชิกสภาเทศบาลที่ กกต.ประกาศรับรองผล คลัสเตอร์โรงงานเล็กๆ และผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อในพื้นที่ไม่มากนัก รวมยอดสะสม 1,762 ราย เสียชีวิต 8 ราย เจ้าหน้าที่สาธารณสุขยังเร่งค้นหาเชิงรุกในทุกกลุ่มเสี่ยงต่อไปโดยเฉพาะจากโรงงานขนาดเล็กแห่งหนึ่งที่พบพนักงานติดเชื้อ 1 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานาการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย หลังจากมาเลเซียมาตรการล็อกดาวน์เต็มรูปแบบทั่วประเทศเป็นวันแรกถึงวันที่ 14 มิ.ย. เป็นเวลา 14 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังคงรุนแรง โดยพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียของ จ.สงขลา มีกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 5 และ ตชด.437 ซึ่งรับผิดชอบดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซียของ จ.สงขลา ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ตลอดแนวชายแดน ใน 3 อำเภอ ตั้งแต่ อ.สะเดา อ.นาทวี และ อ.สะบ้าย้อย

เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยบริเวณแนวชายแดน และตรวตสอบช่องทางธรรมชาติที่อาจเป็นช่องโหว่ให้มีการลักลอบข้ามแดนเข้ามาได้ จากผลพวงที่มาเลเซียล็อคดาวน์ประเทศ ซึ่งได้มีการปิดช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนของจ.สงขลา ระยะทาง 85 กิโลเมตร ที่เคยถูกใช้เป็นเส้นทางลักลอบเข้ามาของทั้งแรงงานต่างด้าวและแรงงานไทยทุกช่องทาง พร้อมจัดกำลังเฝ้าและลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง

พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และบรรยากาศชายแดนไทย-มาเลเซียที่หลักเขตแดน 23/41 อ.สะเดา จ.สงขลา และตรวจเยี่ยมชุดปฏิบัติการจรยุทธของกองกำลังเทพสตรี ซึ่งถูกส่งเข้ามาเสริมดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย อีก 1 ชุด เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากยิ่งขึ้น พร้อมสั่งการให้กำลังทหาร ตชด.ฝ่ายปกครอง และผู้นำท้องถิ่นร่วมมือกันเฝ้าระวังชายแดนป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้ามา ซึ่งอาจเป็นสาเหตุในการแพร่เชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะสายพันธุ์อินเดีย และแอฟริกาใต้ที่ระบาดในประเทศมาเลเซีย