สาวน้อยใจสามี ขังตัวเองกับลูกในห้องเช่า เผยส่งเงินให้น้อย ไม่พอใช้
ญาติแจ้ง ตร.ตรวจสอบ หลังสามีทำงานที่ไต้หวันติดต่อเมียและลูกไม่ได้ 2 วันกลัวมีอันตราย พบขังตัวเองกับลูกน้อยในห้อง อ้างน้อยใจสามีส่งเงินให้น้อยไม่พอใช้
วันที่ 3 เม.ย. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งว่ามีหญิงคนหนึ่งขังตัวเองกับลูกน้อยในห้องเช่าแห่งหนึ่งอยู่ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ไม่ยอมออกจากห้อง และสามีที่ทำงานอยู่ที่ประเทศไต้หวันก็โพสต์ตามหาภรรยากับลูก เพราะติดต่อไม่ได้มา 2 วันแล้วกลัวจะเป็นอันตราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง พบห้องเช่าไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ถนนสายบุรีรัมย์-ประโคนชัย ใกล้กับปั๊มน้ำมัน ปตท. ประตูถูกล็อกกลอนจากข้างในห้องไม่สามารถเปิดได้ เมื่อส่องดูในห้องก็มืดสนิทมองไม่เห็นใคร
จากการสอบถามญาติก็บอกว่าผู้หญิงที่เช่าห้องดังกล่าว อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่จึงลองตะโกนเรียกดูก็มีเสียงผู้หญิงตอบกลับแต่ไม่ยอมเปิดไฟและเปิดประตู ทั้งตำรวจ และญาติก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อมให้เปิดประตูนานเป็นชั่วโมง แต่หญิงคนดังกล่าวก็ไม่ยอมเปิด และไม่ยอมให้ใครเห็นหน้า แต่ได้ยินเสียงบ่นว่าน้อยใจที่สามีซึ่งไปทำงานรับจ้างอยู่ที่ประเทศไต้หวันส่งเงินมาใช้น้อยตนกับลูกไม่พอกิน
ทั้งหาว่าตนใช้เงินเปลือง และกลัวว่าญาติฝ่ายชายจะเอาลูกไปเลี้ยงเองด้วย จึงไม่ยอมเปิดประตูถ้า อยากจะคุยต้องให้สามีกลับจากไต้หวันมาพูดคุยเอง ทั้งตำรวจและญาติก็พยายามพูดปลอบใจว่าไม่มีใครมาแย่งลูกไปหรอก แค่แวะมาดูเพราะทุกคนเป็นห่วง แต่พูดยังไงก็ไม่ยอมเปิดประตู
จากการสอบถามน้องสามีของหญิงสาวรายนี้ทราบว่า ตนอยู่ จ.ศรีสะเกษ ส่วนพี่ชายทำงานรับจ้างที่ประเทศไต้หวัน โอนเงินมาให้ภรรยากับลูกทุกเดือน ๆ ละประมาณหมื่นกว่าบาท แต่เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา พี่ชายโพสต์เฟซบุ๊กว่าติดต่อภรรยากับลูกไม่ได้ ถ้าใครเห็นให้ช่วยแจ้งด้วย เพราะเป็นห่วงลูกกับภรรยา แล้ววานให้ตนเองมาดูให้ พอเดินทางมาดูที่ห้องเช่าในตัวเมืองบุรีรัมย์ ก็พบพี่สะใภ้ขังตัวเองกับลูกชายวัย 5 ขวบในห้องเช่า พยายามเคาะให้เปิดประตูก็ไม่ยอมเปิดมีแต่พูดบ่นลักษณะน้อยใจพี่ชายของตนเอง และกลัวว่าทางญาติสามีจะมาแย่งลูกไป
ตนยืนยันว่าไม่ได้จะมาเอาลูกของพี่สะใภ้ แค่แวะมาดูว่าอยู่ยังไงกินยังไง เพราะเป็นห่วงทั้งพี่สะใภ้และหลาน ก็พยายามชวนทั้งคู่ไปอยู่ด้วยที่ จ.ศรีสะเกษ แต่ก็ปฏิเสธ อย่างไรก็ตามเมื่อมาดูแล้วเห็นว่าทั้งคู่ปลอดภัยดีก็สบายใจ แต่ก็ไม่อยากให้ขังหลานไว้ในห้องแบบนี้ อีกทั้งหลานก็ 5 ขวบแล้ว อยากให้ได้เข้าเรียนเหมือนเด็กคนอื่นแต่เมื่อแม่เขาไม่ยอมก็ไม่รู้จะทำยังไง อยากฝากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยพูดคุยหรือช่วยดูแลด้วย เพราะตนก็ต้องกลับไปทำงานที่ศรีสะเกษแล้ว
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้ประสานทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าของหอพักให้มาช่วยดู