สหรัฐฯ พบเด็กติดโควิด-19 ทุบสถิติ วันเดียวเกือบ 2,000 คน

รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลพบว่า เมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) มีเด็กติดโควิด-19 มากถึง 1,902 คนในวันเดียว ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 

ปัจจุบัน ผู้ติดเชื้อที่เป็นเด็กคิดเป็น 2.4% ของอัตราการติดเชื้อและเข้าโรงพยาบาล ทั้งนี้ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ฉีดวัคซีน ทำให้มีโอกาสติดเชื้อและแสดงอาการของโรคได้ โดยเฉพาะเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่แพร่เชื้อได้ง่าย

อดีตประธานสถาบันกุมารแพทย์แห่งอเมริกา ยอมรับกับสำนักข่าว CNN ว่า สถานการณ์โควิดในตอนนี้ต่างจากปีที่แล้ว เพราะเป็นโควิดคนละสายพันธุ์กับสายพันธุ์ดั้งเดิม หรือ "อู่ฮั่น" และเด็กๆ กลายเป็นกลุ่มเสี่ยงจากโควิดเดลต้า

ขณะเดียวกัน ผู้ติดเชื้อช่วงอายุ 18-29 ปี 30-39 ปี และ 40-49 ปี เพิ่มสูงขึ้นทำลายสถิติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC พบว่า จำนวนเด็กที่ติดเชื้อและเข้าโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้นำรัฐบาลท้องถิ่นหลายรัฐ และรัฐบาลท้องถิ่นระดับเทศมณฑล เริ่มถกเถียงกันถึงความจำเป็นที่ต้องบังคับให้เด็กสวมหน้ากากอนามัยภายในโรงเรียนหรือไม่ เนื่องจากใกล้จะเปิดเทอมใหม่

ขณะที่ ล่าสุดโรงเรียนในหลายเขตของรัฐฟลอริดา เท็กซัส และแอริโซนา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่พบผู้ป่วยสูงขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ประกาศบังคับให้เด็กสวมหน้ากากอนามัยภายในโรงเรียน แม้ว่าผู้ว่าการรัฐเหล่านี้ จะสั่งห้ามไม่ให้บังคับสวมหน้ากากอนามัย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในรัฐฟลอริดาถือว่าหนักสุด เพราะ 1 ใน 5 ของจำนวนผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลอยู่ในรัฐนี้ และเมื่อวานนี้ (14 สิงหาคม) เพียงวันเดียว รัฐฟลอริดาพบผู้ป่วยใหม่ถึง 16,100 คน ส่งผลให้เตียงห้อง ICU เต็มกว่า 90% แล้ว