รีเซต

จีนเล็งจับมือสหรัฐตรึงราคาน้ำมัน

จีนเล็งจับมือสหรัฐตรึงราคาน้ำมัน
มติชน
17 พฤศจิกายน 2564 ( 14:50 )
28
จีนเล็งจับมือสหรัฐตรึงราคาน้ำมัน

หนังสือพิมพ์เซาธ์ไชนามอร์นิงโพสต์ (เอสซีเอ็มพี) รายงานเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนนี้ระบุว่า รัฐบาลจีนยินดีพิจารณาข้อเสนอของสหรัฐอเมริกา ที่ร้องขอให้ทั้งสองประเทศซึ่งเป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ร่วมกันเทขายน้ำมันดิบในคลังน้ำมันสำรองเชิงยุทธศาสตร์ออกมาพร้อมๆ กัน เพื่อดึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกให้ลดต่ำลงมาอยู่ในระดับที่รับได้ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาเงินเฟ้อพุ่งสูงเหมือนเช่นที่เป็นอยู่ในเวลานี้

 

เอสซีเอ็มพีอ้างแหล่งข่าวที่เป็นบุคคลที่รู้เรื่องนี้ดี ระบุว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐอเมริกาเป็นผู้เสนอวิธีการดังกล่าวระหว่างการประชุมสุดยอดทางไกลเป็นครั้งแรกกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศทั้งสองที่กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ หลังจากที่ นายหวัง อี้ กับนาย แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้หารือกันในเรื่องเดียวกันนี้เมื่อ 2 วันก่อน

 

แหล่งข่าวรายเดียวกันระบุว่า กระทรวงที่รับผิดชอบด้านพลังงานของทั้งสองฝ่ายกำลังหารือกันถึงรายละเอียดของการดำเนินการ โดยย้ำว่า จีนเองเปิดกว้างรับพิจารณาทำตามคำขอของสหรัฐ แต่ยังไม่รับปากเป็นมั่นเหมาะ เนื่องจากจำเป็นต้องพิจารณาสภาวะความต้องการน้ำมันภายในประเทศจีนก่อน

 

ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกาเป็นชาติที่มีคลังน้ำมันดิบสำรองขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีปริมาณน้ำมันดิบในคลังอยู่สูงถึง 727 ล้านบาร์เรล ในขณะที่คลังน้ำมันยุทธศาสตร์ของจีนมีน้ำมันอยู่ราว 200 ล้านบาร์เรลหรือเท่ากับปริมาณนำเข้า 40-50 วัน นอกจากนั้นทั้งจีนและสหรัฐอเมริกายังเป็นชาตินำเข้ามันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลก 2 อันดับแรกอีกด้วยหากจับมือกันดำเนินการ จะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอย่างลึกซึ้งแน่นอน


แหล่งข่าวระบุว่า ไม่ว่าจีนจะตกลงด้วยหรือไม่ก็ตาม สหรัฐจะปล่อยน้ำมันดิบจากคลังยุทธศาสตร์ออกสู่ตลาดแน่นอนตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไปเพื่อลดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นถึง 67.5 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ราว 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 ปีให้ต่ำลง

 

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา กลุ่มพันธมิตรผู้ผลิตน้ำมันในองค์กรผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปก) และผู้ผลิตรายใหญ่นอกกลุ่มที่เรียกว่า โอเปกพลัส ปฏิเสธคำขอของสหรัฐให้เพิ่มผลผลิตเข้าสู่ตลาดให้มากขึ้น

 

ทางด้านทบวงการพลังงานระหว่างประเทศ (ไออีเอ) เผยแพร่รายงานล่าสุดของการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกออกมาเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน คาดว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เฉลี่ยทั้งปี 2022 จะอยู่ที่ 79.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สูงขึ้นจาก 70.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปีนี้ แต่ราคาที่สูงขึ้น จะทำให้ผู้ผลิตในสหรัฐกลับมาผลิตเพิ่มมากขึ้นกดดันให้ราคาต่ำลง ส่วนความต้องการน้ำมันนั้นไออีเอประเมินว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยจะเพิ่มขึ้น 5.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้และอีก 3.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า

 

อย่างไรก็ตามสำนักข่าวทาสส์รายงานในวันเดียวกันระบุว่า ผู้จัดการอาวุโสของบริษัทรอสเนฟ ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียคาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบในครึ่งหลังของปี 2022 อาจพุ่งสูงถึง 120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (รอยเตอร์/เอสซีเอ็มพี)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง