รีเซต

สุดสะพรึง! ภูเขาไฟเอตนาในอิตาลี ปะทุใหม่อีกครั้ง พ่นเถ้าถ่านสูง-ลาวาแดงฉาน

สุดสะพรึง! ภูเขาไฟเอตนาในอิตาลี ปะทุใหม่อีกครั้ง พ่นเถ้าถ่านสูง-ลาวาแดงฉาน
ข่าวสด
17 กุมภาพันธ์ 2564 ( 16:32 )
235

ภูเขาไฟเอตนา หรือ มอนจีเบลโล ตั้งอยู่บนเกาะซิซิลี ประเทศอิตาลี ถูกจัดว่าเป็นภูเขาไฟที่มีพลังมากที่สุดในยุโรป วัดฐานโดยรอบได้ 150 กิโลเมตรและบนยอดมีหิมะปกคลุมปีละเก้าเดือน เนื่องด้วยความสูงที่มีถึง 3,350 เมตร ทำให้เอตนาเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปและปะทุบ่อยครั้งในรอบ 500,000 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ภูเขาไฟเอตนาแห่งนี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี 2556

 

ที่ผ่านมาได้เกิดการปะทุอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากภูเขาไฟแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณแผ่นเปลือกโลกแอฟริกันและยูเรเซียน รวมทั้งแนวรอยเลื่อนแอฟริกันและไอโอเนีย โดยเมื่อช่วงปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมานั้นภูเขาไฟเอตนาได้มีการเคลื่อนไหว และปะทุลาวาร้อนออกมา

 

ภูเขาไฟเอตนา ในอิตาลี ปะทุและพ่นลาวาร้อนแดงฉาน เมื่อ 4 ก.พ. 64

 

และล่าสุดเมื่อวาน (16 ก.พ.) ภูเขาไฟเอตนาก็ได้พ่นควันและเถ้าถ่านจากการปะทุครั้งใหม่ออกมาจำนวนมาก ทั้งนี้ทางการอิตาลีได้ระบุว่าการปะทุในครั้งนี้ไม่มีอันตรายต่อหมู่บ้านที่อยู่รอบภูเขาไฟ สแตฟาโน แบรนโค หัวหน้าของสถาบันธรณีฟิสิกส์และภูเขาไฟวิทยาแห่งชาติ INGV ในเมืองคาตาเนีย ได้กล่าวว่าจากการประเมินการปะทุของภูเขาไฟเอตนาในครั้งนี้เกิดขึ้นบริเวณตะวันออกเฉียงใต้ของภูเขาไฟ และเริ่มขึ้นเมื่อบ่ายของเมื่อวาน

 

 

 

 

 

อย่างไรก็ตามแม้การปะทุครั้งใหม่นี้จะไม่ส่งผลอันตราย แต่ก็ส่งผลให้มีกลุ่มควันลอยสูงขึ้นไปในอากาศกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้เจ้าหน้าที่ตัดสินใจปิดสนามบินนานาชาติของคาตาเนียชั่วคราว ทั้งการปะทุดังกล่าวยังทำให้ฝุ่นขี้เถ้าตกลงมาตามบ้าน ถนนและระเบียงทั่วเมือง ทั้งนี้หน่วยงานฉุกเฉินได้ชี้แจงว่าพวกเขากำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในสามหมู่บ้านที่อยู่บริเวณเชิงภูเขาไฟอย่างหมู่บ้าน Linguaglossa, Fornazzo และ Milo

 

 

 

 

ทั้งนี้ภาพและวิดีโอการประทุครั้งใหม่ในครั้งนี้ได้ถูกเผยแพร่ในโลกอินเตอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก โดยในภาพเหล่านั้นจะแสดงให้เห็นกลุ่มควันสีกุหลาบขนาดใหญ่ที่ลอยขึ้นมาจากปล่องภูเขาไฟ และปกคลุมยอดเขาที่เต็มไปด้วยหิมะ ถึงแม้ว่าจะดูสวยงามแต่ก็แฝงไปด้วยความน่าสะพรึง ก่อนจะค่อยจางและสลายหายไป เหลือเพียงลาวาสีแดงสดที่ยังคงไหลลงมาตามทางลาดชันและยังลุกไหม้เปล่งแสงในยามค่ำคืน

 

 

 

ที่มา : thenewdaily

ข่าวที่เกี่ยวข้อง