รีเซต

ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง

ทีมฟอร์มูลา อี โดนปรับอ่วม หลังติดเครื่องสแกนแอบส่องยางรถคู่แข่ง
TNN ช่อง16
27 มิถุนายน 2566 ( 14:10 )
37

ในปัจจุบันการแข่งขัน ฟอร์มูล่า อี (Formula E) หรือการแข่งขันรถสูตรไฟฟ้า ได้รับความนิยมไม่แพ้การแข่งขันรถฟอร์มูล่าวัน (Formula 1: F1) ที่ใช้พลังงานเชื้อเพลิง แต่ดูเหมือนว่าในการแข่งขันสนามพอร์ตแลนด์ (Portland) ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเกิดดราม่าเล็ก ๆ ขึ้น เมื่อทีมแข่ง DS Penske (ดีเอส เพนสกี) โดนปรับไปมากกว่า 25,000 ยูโร หรือราว 960,000 บาท ! เนื่องจากทีมติดตั้งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี (RFID scanner) ไว้บริเวณปากทางเข้าพิทเลน (Pit lane) หรือเส้นทางเข้าออกระหว่างสนามกับจุดซ่อมแซมรถของแต่ละทีม ทำให้สามารถส่องประเภทยางที่ทีมคู่แข่งใช้ได้ 

เครื่องสแกน RFID ทำอะไรได้บ้าง ?

การแข่งขันฟอร์มูล่า อี ใช้ชิปอาร์เอฟไอดี (RFID chips) หรือเทคโนโลยีคลื่นวิทยุ (Radio Frequency Identification) ซึ่งเป็นระบบระบบเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ ฝังชิปไว้ในวัตถุต่าง ๆ เช่น ฉลากสินค้า บัตรพนักงาน หรือติดไว้กับปลอกคอสัตว์เลี้ยง เพื่อติดตามข้อมูลและรายละเอียดของวัตถุชิ้นนั้น โดยอาศัยคลื่นวิทยุ ทำให้ไม่ต้องสัมผัสวัตถุนั้น ๆ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีคลื่นวิทยุประยุกต์ใช้ได้หลากหลายแบบ ตัวอย่างการใช้เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดีใกล้ตัวเรา คือแผ่นแม่เหล็กทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสในหนังสือ ที่ใส่เอาไว้กันขโมยนั่นเอง

ภาพจาก bslw

โดยในการแข่งขันฟอร์มูล่า ก็ได้นำเอาเทคโนโลยีคลื่นวิทยุนี้มาประยุกต์ โดยฝังชิปอาร์เอฟไอดีไว้ในยางรถแข่ง เพื่อติดตามสภาพพื้นยางขณะแข่งขัน และวัดอุณหภูมิและแรงดันลมภายในยางเป็นหลัก ซึ่งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี (RFID scanner) สามารถสแกนข้อมูลจากชิปได้เลยเพียงแค่นำวัตถุที่ฝังชิปเคลื่อนผ่านตัวเครื่องสแกน โดยไม่ต้องอาศัยการยิงแสงเลเซอร์ ต่างอย่างเครื่องสแกนบาร์โคดทั่วไป


ทีมติดเครื่องสแกน RFID ไว้ปากทางพิทเลน

โดยในวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา ทาง เอฟไอเอ (FIA: Fédération Internationale de l'Automobile) หรือสหพันธ์รถยนต์ระหว่างประเทศ ผู้ดูแลการแข่งขันและกฎระเบียบต่าง ๆ ในการแข่งขันฟอร์มูล่า อี ออกมาแถลงว่า ระหว่างรอบฝึกซ้อมและรอบแข่งขันจับเวลาเพื่อจัดอันดับ (qualifying) ในวันเสาร์ ทางทีมดีเอส เพนสกีติดตั้งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดีไว้บริเวณปากทางเข้าพิทเลน

ในตอนแรก แถลงการณ์จากเอฟไอเอระบุว่าทีมดีเอส เพนสกี ติดตั้งเครื่องสแกนอาร์เอฟไอดี เพื่อรวมรวบข้อมูลยางจากคู่แข่ง แต่ต่อมามีการแก้ไข ลบส่วนที่พูดถึงข้อมูลยางรถคู่แข่งออก เหลือแค่ว่า ทางดีเอส เพนสกีสามารถ “รวบรวมข้อมูลถ่ายทอดสดจากรถได้ทุกคัน” 

โดนปรับโทษทั้งทีมและนักแข่ง

การกระทำดังกล่าวทำให้ทีมดีเอส เพนสกี มีข้อได้เปรียบและไม่เป็นธรรมกับทีมอื่น เพราะทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลจากทีมอื่น แล้วมาปรับแก้กลยุทธ์หาจังหวะแซงรถคันอื่น และรักษายางให้มีประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการแข่งขันล่วงหน้าได้ ทางเอฟไฟเอจึงตัดสินใจปรับให้นักแข่งสองคนจากทีมดีเอส เพนสกี อย่าง สโตเฟล แวนดอร์น (Stoffel Vandoorne) และ ฌอง-เอริก แวร์ญ (Jean-Éric Vergne) ออกสตาร์ทจากพิทเลนแทน นั่นหมายความว่าในรอบการแข่งขันหลัก พวกเขาต้องรอรถคันอื่นจะขับผ่านไปก่อน ก่อนที่จะเข้าออกตัวจากบริเวณท้ายพิทเลนไปยังสนามแข่ง ส่วนทางทีมดีเอส เพนสกีโดนปรับเงินเป็นจำนวน 25,000 ยูโร หรือราว 960,000 บาท

อย่างไรก็ดี ทางเอฟไอเอไม่ได้ลงรายละเอียดว่า เครื่องสแกนอาร์เอฟไอดีที่ทางทีมดีเอส เพนสกี มีกี่เครื่องหรือใช้เครื่องสแกนอาร์เอฟไอดีแบบใด 


นักแข่งแย้งว่าไม่ได้ขโมยข้อมูลจากทีมอื่น

อย่างไรก็ตาม หลังจากการแข่งขันหลักในวันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายนจบลง ทางด้าน สโตเฟล แวนดอร์น (Stoffel Vandoorne) นักแข่งจากทีมดีเอส เพนสกีออกมาเผยว่า การกระทำของทีมเป็นสิ่งที่ผิดก็จริงอยู่ แต่ว่าข้อความที่สื่อเผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ไม่เป็นความจริง โดยแวนดอร์นอธิบายว่า ทางทีมไม่ได้ “ขโมย” ข้อมูล แต่แค่พยายามตรวจสอบดูเฉย ๆ ว่าทีมอื่นใช้ยางประเภทไหน ซึ่งทีมอื่นก็ทำแบบนี้ โดยการใช้กล้องถ่ายรูปถ่ายภาพรถแข่งคันอื่น

ข้อมูลยางนั้นสำคัญไฉน

ในการแข่งขันรถยนต์ ยางกลม ๆ สี่ล้อถือว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้เครื่องยนต์และการปรับแต่งตัวรถเลย เพราะยางแต่ละแบบจะมีความแข็ง และอายุการใช้งานยางแตกต่างกันออกไป โดยการแข่งขันฟอร์มูล่า อีแต่ละสนามจะมียางให้ใช้เพียงแค่ 2 ชุด และไม่มีความแข็งยางให้เลือกใช้ ต่างจากการแข่งขันฟอร์มูลาวัน ซึ่งการที่ทีมแข่งมียางให้ใช้เพียงแค่ 2 ชุด เพื่อลงฝึกซ้อม, แข่งขันจับเวลาและแข่งขันหลักกันตลอด 2 วันนั้น ส่งผลอย่างมากต่อการปรับแต่งข้อมูลตัวรถ และกลยุทธ์การขับเพื่อรักษาพื้นยางให้ใช้ได้จนจบการแข่งขัน

นอกจากนี้ในฤดูกาลแข่งขันปีค.ศ. 2023 การแข่งขันฟอร์มูล่า อี เปลี่ยนผู้ผลิตยางจาก มิชลิน (Michelins) เป็น ฮันคุก (Hankook) ซึ่งทำให้ข้อมูลการใช้ยางเปลี่ยนไปอย่างมาก จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ทีมแข่งจะพยายามรวบรวมข้อมูลการใช้ยางจากคู่แข่งด้วยสารพัดวิธีแปลก ๆ แบบที่ทีมดีเอส เพนสกีพยายามทำ 

ภาพจาก fiaformulae

 

ซึ่งในอนาคตทางเอฟไอเอ จะมีแนวทางหรือออกกฎระเบียบกำกับการใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์อื่น ๆ ในสนามแข่งเพิ่มเติมหรือไม่ต้องติดตามกันต่อไป 

ที่มาข้อมูล TheVerge, Motorsport

ที่มาภาพ FIAformulaeBSLW

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง