รีเซต

'ทวี' ลงพื้นที่สงขลา แลกเปลี่ยนความเห็นครูสอนศาสนา ตัวแทนสมาคมฯ เสนอผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ

'ทวี' ลงพื้นที่สงขลา แลกเปลี่ยนความเห็นครูสอนศาสนา ตัวแทนสมาคมฯ เสนอผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ
ข่าวสด
31 ธันวาคม 2564 ( 17:54 )
70

'ทวี' ลงพื้นที่สงขลา แลกเปลี่ยนรับฟังความเห็นครูสอนศาสนา ถกปมปัญหาการศึกษา ตัวแทนสมาคมฯ เสนอ 'ฮำสะ' เป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสงขลาว่า ระหว่างวันที่ 30-31 ธ.ค.64 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะ ลงพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนและรับฟังความเห็นของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้รวมทั้งจังหวัดสงขลา

 

โดยมีกำหนดการ เดินทางไปที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา เพื่อรับฟังรายงานสรุป การขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอน ในสถานการณ์โควิดของสมาคมโรงเรียนคุรุสัมพันธ์ ฯ มี นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา และ นายฮำสะ สายสะหลำ นายกสมาคมครูสอนศาสนาอิสลามภาคฟัรฎูอีน จังหวัดสงขลา และคณะร่วมให้การต้อนรับ

 

พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า “ผู้นำศาสนา และก็ครู มีความสำคัญมากเคยพูดอภิปรายในสภาว่า มีปัญหาสังคมอยู่ 3 ประเภทที่ต้องให้การช่วยเหลือจะเลือกช่วยเรื่องอะไรก่อน คือ คนเจ็บป่วย คนยากจนไม่มีงานทำ และก็คนไม่มีความรู้ คำตอบของผมจะต้องช่วยคนไม่มีความรู้ให้มีความรู้ก่อน เพราะถ้าคนมีความรู้แล้วจะแก้ปัญหาได้หมด การพัฒนาต่างๆที่เห็นเกิดจากปัญญาเกิดจากความรู้หมด และผู้นำที่ฉลาดจะต้องพัฒนาคนทุกช่วงวัยตั้งแต่เกิดจนถึงเสียชีวิต จะต้องทุ่มไปพัฒนาคนให้มีความรู้

 

โดยเฉพาะ หลักสูตรฟัรฎูอีน (ตาดีกา) หมายถึงว่าการศึกษาโดยใช้ศีลธรรมและคุณธรรมเข้าไปในตัวคน พอมาดูภาพรวมของประเทศตอนนี้ ทำไมพอเกิดวิกฤตทั้งเศรษฐกิจวิกฤตทั้งโรคติดต่อประเทศเราไปค่อนข้างลำบากและเหมือนประเทศเราค่อนข้างผุพัง

 

โดยเฉพาะสิ่งที่น่าห่วงมากคือเรื่องการศึกษา คน GEN Y หรือในวัยระหว่าง 21-37 ปี คนเรียนจบการศึกษาปริญญาตรี ที่จะต้องไปสร้างความเจริญให้กับประเทศ ปรากฏว่าคนกลุ่มนี้ต้องกู้เงิน กยศ. เรียนซึ่งเป็นวัยที่น่าจะจบการศึกษาไปแล้วแทนที่จะมีความสุขกลับเป็นหนี้เรื่องการศึกษา ถูกฟ้องคดี ทั้งที่หลักสิทธิมนุษยชนเรื่องการศึกษาต้องให้ฟรี

 

การทำให้มนุษย์มีความรู้เป็นหน้าที่และความรับผิดชอบของรัฐบาลที่มีในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ การศึกษาในช่วงเด็กเล็กที่ของผู้นับถือศาสนาอิสลามเรียนว่า ตาดีกา หรือ ฟัรฎูอีน มีความสำคัญมาก งานวิจัยระบุ ว่าจะมีผลต่อตอบแทนมากประมาณ7-10เท่า ในหลักการอิสลามเด็กก็คือคนอายุ 1 – 15 ปี เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทุกคนต้องดูแลเด็ก พออายุเกิน 15 ปี เขาได้เป็นผู้ใหญ่ได้ใช้เขาให้เป็นประโยชน์ยาวนานที่สุด

 

ประเทศไทยจะต้องเปลี่ยนวิธีคิดเหมือนประเทศสิงคโปร์ เขาจะให้ความสำคัญของความเป็นมนุษย์ เขาทำยังไงก็ได้ให้คนของเขามีความรู้ มีความสามารถ มีสุขภาพดี และที่สำคัญก็คืออยู่กันอย่างพหุวัฒนธรรม

 

นายกฯของสิงคโปร์วันดีคืนดีก็ไปกล่าวสปีชเป็นภาษามลายู ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน เพราะเขาให้คุณค่าตรงนี้ เรื่องนี้เป็นหน้าที่ที่คนไม่ควรจะมองข้าม ถ้าเราได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ลูกหลานเราได้มีความรู้เป็นคนที่มีคุณภาพ การศึกษาคือการเปลี่ยนมนุษย์จากป่าเถื่อนให้คนมีธรรมธรรม มีศาสนา ต้องปฏิรูปการศึกษาทั้งประเทศ การศึกษาภาคบังคับเด็กเราที่เป็นการเรียนฟรี แต่ตัวเลขจากกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาได้ช่วยเหลือซ้ำในช่วงวัยการศึกษาภาคบังคับมีการศึกษา 90% ที่ซ้ำซ้อนกัน

 

และพบว่าขั้นมหาวิทยาลัยประเทศไทยมีผู้ศึกษาแค่ 8% ถือว่าต่ำมากสำหรับกลุ่มประเทศรายได้ปานกลางค่อนข้างสูงด้วยกัน ที่สำคัญคนกลุ่มนี้ต้องไปกู้มาเรียน แล้วพอไปกู้มาเรียนก็ถูกฟ้อง บางคนจบมาแล้วอายุ 30 – 40 ปี ยังใช้หนี้ กยศ. เพราะมันมีดอกเบี้ย มีเบี้ยปรับรวมๆไป 18% ไม่เห็นด้วยที่จะมีดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ กองทุนเพื่อเสมอทางการศึกษาควรให้น้ำหนักผู้ขากแคลนทุนทรัพย์ไม่ต้องกู้ยืม กยศ. ให้มากขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเสร็จสิ้นการต้อนรับและแลกเปลี่ยนความเห็น ตัวแทนสมาคมฯได้เสนอให้ นายฮำสะ สายสะหลำ นายกสมาคมครูสอนศาสนาอิสลามภาคฟัรฎูอีน ควรเป็นผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ของพรรคประชาชาติ ที่จะช่วยพัฒนาและแก้ปัญหาการศึกษาที่เป็นนโยบายสำคัญของพรรคประชาชาติด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง