รร.-รีสอร์ตหาดแม่รำพึง-เสม็ดอ่วมพิษน้ำมันรั่ว ยกเลิกห้องพัก 100% กรมเจ้าท่าแจ้งฟัน SPRC
ข่าววันนี้ 1 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้าการขจัดคราบน้ำมันจากเหตุท่อน้ำมันดิบใต้ทะเลของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รั่วไหลจำนวนมากลงกลางทะเล ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กิโลเมตร บริเวณท่าเรือนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา โดยคราบน้ำมันได้ลอยมายังหาดที่หาดแม่รำพึง จ.ระยอง ทำให้ต้องประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติ
นางสุวรรณา โดตี้ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.ระยอง กล่าว เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า โรงแรมที่พักแถวหาดแม่รำพึงโดนเต็มๆ ส่วนเกาะเสม็ดมีข่าวว่าคราบน้ำมันจะเข้าอ่าวพร้าว คนจะเข้าพักก็วิตกกังวลเลยยกเลิกที่พักกันไป ทั้งที่หาดแม่รำพึงกับเกาะเสม็ดยกเลิกเกือบ 100% ส่วนอื่นของเมืองระยองโดนยกเลิกไปบางส่วน บางคนบอกว่าให้ถ่ายภาพชายหาดส่งไปให้ดู รวมๆ แล้วไม่เยอะเหมือนที่หาดแม่รำพึงและเกาะเสม็ด นอกจากนี้ จังหวัดได้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหาดแม่รำพึง ห้ามลงเล่นน้ำ ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการหนัก ชาวประมง ร้านอาหาร โรมแรมที่พักกระทบไปหมด จากสถานการณ์โควิด-19 เรายังไม่ฟื้นเลย มาเจอคราบน้ำมันซ้ำอีก วันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้จะเชิญผู้ประกอบการ ร้านอาหารที่พัก โรงแรม เข้าร่วมประชุมรับฟังเกี่ยวกับเรื่องผลกระทบครั้งนี้ เพื่อรวบรวมข้อมูลนำเสนอเข้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ต่อไป
นางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมืองระยอง กล่าวว่า มีผงสีดำเม็ดเล็กๆ เข้าบริเวณชายหาดอ่าวพร้าว เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาเก็บกู้แล้ว อยู่ระหว่างรอผลแล็ปว่าเป็นคราบน้ำมันหรือไม่ ตอนนี้คราบน้ำมันจะเข้าหรือไม่เข้าเกาะเสม็ดได้รับผลกระทบความเสียหาย 100% เกาะเสม็ดมีโรงแรม 150 กว่าแห่ง ห้องพักเกือบ 4,000 ห้อง นักท่องเที่ยวยกเลิกหมดแล้ว โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เขาก็ไม่เลือกมา โครงการเทสต์แอนด์โกเปิดวันที่ 1 กุมภาพันธ์นี้ นักท่องเที่ยวต่างชาติเขาไม่เลือกมา เพราะคิดว่า อาหารทะเลทานไม่ได้ น้ำทะเลก็ไม่กล้าเล่น หลังจากมีการเก็บกู้คราบน้ำมันเสร็จแล้ว จะต้องมาดูเรื่องการชดเชยเยียวยาผู้ประกอบการอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นภาคธุรกิจท่องเที่ยว แม่ค้าชายหาดแม่รำพึง ประมงพื้นบ้านเรือเล็ก ก้นอ่าวและเกาะเสม็ด ตอนนี้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเสียหายหมด
วันเดียวกัน ที่สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง ศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (ศปส.จท.) นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่า ในฐานะผู้เสียหาย ได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับกรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ปิโตรเลียมฯ จนคดีถึงที่สุดแล้ว เป็นไปตามข้อสั่งของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคม โดยฐานความผิดดังกล่าวเป็นเหตุให้เกิดมลพิษต่อสิ่งมีชีวิตหรือต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว หรือเป็นอันตรายต่อการเดินเรือ อันเป็นความผิดตามมาตรา 119 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2535 และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จะร่วมประเมินความเสียหายทางด้านสิ่งแวดล้อมก่อนแจ้งกรมเจ้าท่าดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ส่วนน้ำมันที่เข้าสู่ชายฝั่ง ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน ระบบนิเวศ การช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟูนั้นจะได้ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบ อาทิ การท่องเที่ยว ชาวประมง หากมีจะดำเนินการเยียวยาตามความเสียหายที่เกิดจริง โดยจะมีหน่วยที่รับผิดชอบตอบข้อสอบถามความเสียหาย รวมถึงช่องทางการให้ผู้ได้รับผลกระทบร้องทุกข์ตามช่องทางที่จัดหาให้ต่อไป