"ทอง-บิทคอยน์-หุ้น" ร่วงยกกระดาน สวนทาง "ดอลลาร์" แข็งรอบ 3 เดือน กังวลฟองสบู่ AI "เฟด" ไม่ลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (4 พ.ย.) หลังจากธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐฯ เตือนว่าตลาดหุ้นอาจเข้าสู่ภาวะปรับฐาน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับมูลค่าหุ้นที่สูงเกินไป และอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 47,085.24 จุด ลดลง 251.44 จุด หรือ -0.53%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,771.55 จุด ลดลง 80.42 จุด หรือ -1.17% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 23,348.64 จุด ลดลง 486.09 จุด หรือ -2.04%
ส่วนสินทรัพย์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกลางอย่างทองคำก็ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 1% ในวันอังคาร (4 พ.ย.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ จากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 53.50 ดอลลาร์ หรือ 1.33% ปิดที่ 3,960.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างคริปโทเคอร์เรนซี บิทคอยน์นำทีมร่วงมากกว่า 5% หลุด 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวลดลงกว่า 20% จากจุดสูงสุด และแตะจุดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน เข้าสู่ภาวะ "ตลาดหมี" หรือ "Bear Market" ในทางทฎษฎี ทำให้เกิด “liquidation” หรือล้างพอร์ตคริปโทฯกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 24 ชั่วโมง
ส่วนเหรียญอื่น ๆ ก็ปรับตัวร่วงตามกันอย่าง Ethereum ปรับตัวลดลง 8.6% Bittensor ปรับตัวลดลง 14% และ Zcash ปรับตัวลดลง 8% เป็นต้น จากการที่นักลงทุนเทขายเพราะลดความเสี่ยงจากหุ้น AI และการขาดแรงซื้อใน ETF
แรงขายสินทรัพย์เสี่ยงสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ดีดตัวแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนลดคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนธ.ค.
ณ เวลา 22.19 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดอลลาร์ บวก 0.28% สู่ระดับ 100.156 ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า 0.34% สู่ระดับ 1.148 เทียบยูโร และร่วงลง 0.45% สู่ระดับ 153.51 เยน
เจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ขณะที่เฟดขาดแคลนข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ เนื่องจากสหรัฐยังคงเผชิญการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เตือนว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.ยังคงมีความไม่แน่นอน
ส่วนนางลิซา คุก สมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด แสดงความไม่แน่ใจเกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค. แม้ว่าตนลงมติสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนต.ค.
ล่าสุด นักลงทุนให้น้ำหนัก 65% ต่อคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนธ.ค. จากเดิมที่ให้น้ำหนัก 94% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
